รู้จัก Woke Movement – การขับเคลื่อนในยุคคอนเทนต์ตื่นรู้ที่อาจนำไปสู่การตีความแบบผิด ๆ

“เมื่อไหร่จะตาสว่างกันเสียที”
“ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงไม่มีคนดำ”
“อะไร ๆ ก็ผู้ชาย จะไม่เหลือที่ให้ผู้หญิงยืนเลยสินะ!”

ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 คำว่า Woke (โว้ก) มีสถานะเป็นเพียง ‘วาทกรรม’ ของชนชาติแอฟริกันที่อาศัยอยู่ในอเมริกา แต่ปัจจุบันคำ ๆ นี้ไม่ต่างอะไรกับยุทโธปกรณ์ ที่มีไว้แปะป้ายแยกคนออกเป็น ‘กลุ่มหัวก้าวหน้า’ และ ‘กลุ่มอนุรักษ์นิยม’

จริงอยู่ที่มุมมองต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดควรเป็นเรื่องปัจเจคบุคคล แต่การมองโลกผ่านเลนส์ของ Woke Movement โดยแยกออกเป็นเพียงสีขาวกับดำ อาจทำให้ผู้คนตีความบริบทของหลาย ๆ อย่างผิดพลาด จนเกิดเป็นสงครามทางความคิดที่ไม่จำเป็น

Cr. Self-help


จากการเริ่มต้นค้นหาความหมายในพจนานุกรม ทำให้ทราบว่า Woke เป็นคำคุณศัพท์แบบไม่เป็นทางการ หมายถึง ตระหนักถึงปัญหาทางสังคมและการเมืองและกังวลว่ากลุ่มบางกลุ่มในสังคมได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกับกลุ่มอื่น (Oxford Dictionary) และเมื่อขุดคุ้ยข้อมูลให้ลึกลงไป พบว่าบางทีต้นกำเนิดของคำนี้มาจาก Wake หรือ Awake คาดกันว่าจุดเริ่มต้นแรก ๆ น่าจะมาจากวลี ‘Stay Awake’ ในบันทึกเสียงเพลง Scottsboro Boys ของ Lead Belly เมื่อปี 1938 ซึ่งบรรยายถึงความขมขื่นของชายหนุ่มผิวสี 9 คนที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมในข้อหาอนาจารหญิงสาวเมื่อปี 1931 (bbc, 2023)

เนื่องจากต้นกำเนิดของแนวคิด Woke มาจากคนผิวสี ในระยะแรกความหมายของคำ ๆ นี้ จึงเน้นไปที่การทวงสิทธิเสรีภาพของคนผิวสีเป็นหลัก แต่ก็ยังไม่ได้ใช้กันแพร่หลายมากนัก จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ที่จุดประกายให้ทั่วโลกรู้จักแนวคิด Woke

แม้จะดู Out-of-date ไปแล้วสำหรับปี 2025 แต่ทว่าเวลาพูดถึงคำว่า Woke กระแส #BlackLivesMatter คือเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้จริง ๆ

Cr. BlackLivesMatter


กุมภาพันธ์ ปี 2012 เกิดเหตุระทึกที่ลอสแองเจลิส เมื่อเทรวอน มาร์ติน เยาวชนชาวแอฟริกัน – อเมริกันอายุ 17 ปี ถูกตำรวจผิวขาว จอร์จ ซิมเมอร์แมน ตัดสินใจวิสามัญ โดยให้การว่ามาร์ตินมีพฤติกรรมน่าสงสัย เหตุการณ์นี้กลายเป็นชนวนให้เรื่องเชื้อชาติกลับมาเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมอเมริกัน ยิ่งในขณะนั้นอยู่ในสมัยของบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของอเมริกา ท่าทีของรัฐบาลก็ยิ่งถูกจับตามองจากคนทั่วโลก

#BlackLivesMatter ยังถูกปลุกให้ตื่นในปี 2014 หรืออีก 2 ปีให้หลัง ที่รัฐมิสซูรี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดาร์เรน วิลสัน ใช้อาวุธปืนสังหารไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีชาวแอฟริกัน – อเมริกัน จนทำให้กระแสต่อต้านการเหยียดผิวถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง และแพร่กระจายไปทั่วทุกวงการ

การเสียชีวิตของไมเคิล บราวน์ นอกจากจะคืนชีวิตให้กับกระแส #BlackLivesMatter แล้ว ยังถือกำเนิดแฮชแท็กใหม่ที่วิวัฒน์มาจาก Stay Awake นั่นคือ #StayWoke แปลเป็นไทยว่า ให้ตื่นรู้ ตื่นตัว อยู่เสมอ

ไม่น่าประหลาดใจเท่าใดนักที่กระแสต่อต้านการเหยียดผิวจะแพร่หลายออกไปผ่านแฮชแท็กนี้ แต่ที่น่าสนใจ คือ #StayWoke ขยายวงกว้างของข้อเรียกร้องออกไป เหลือเพียงคำว่า Woke ซึ่งใช้นิยามแนวคิดของการเมืองร่วมสมัย ที่มุ่งต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม จนได้รับการบัญญัติศัพท์ในพจนานุกรมต่าง ๆ เช่น Oxford หรือ Merriam ในปี 2017 (Vox, 2020)

และตั้งแต่นั้นมา Woke จึงมีความหมายครอบคลุมทั้งการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ สิทธิแรงงาน สิทธิในร่างกาย ตลอดจนกลายเป็นคำที่เอาไว้แปะป้ายการเมืองฝ่ายซ้าย ให้แยกขาดจากการเมืองฝ่ายขวาอย่างสิ้นเชิง

ไม่มีใครปฏิเสธว่า…เจตนารมณ์ของ Woke คือการขับเคลื่อนสังคมก้าวหน้า

ในปี 2016 สไปร์ค ลี ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวแอฟริกัน – อเมริกัน และตัวแทนนักแสดงผิวสีอีกหลายชีวิต ร่วมติดแฮชแท็ก #OscarsSoWhite คว่ำบาตรคณะกรรมการออสการ์ กรณีไม่มีนักแสดงผิวสีเข้าชิงรางวัลแม้แต่สาขาเดียว (VOA, 2016)

Cr. Quinta


7 ปีต่อมา ข้อเรียกร้องในลักษณะเดียวกันยังคงปรากฏ เมื่อควินตา บรันสัน นักแสดงผิวสีชาวอเมริกัน กล่าวปรามาส ‘Friends’ ซิตคอมยุค 90s ชื่อดัง กลางเวทีประกาศรางวัลปี 2023 ที่ใช้คนผิวขาวเป็นนักแสดงนำ และให้คนผิวสีรับบทสมทบเล็ก ๆ (Independent, 2023) 

ฟากการเมืองการปกครองเองก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของหญิงสาวชาวสเปน ภายใต้แนวคิด “Feminist Emergency” เพื่อต่อต้านความรุนแรงต่อสตรี (The Jordan Times, 2019) หรือการรณรงค์สิทธิในอาชีพ ภายใต้แนวคิด “Sex Work Is Work” ในนิวยอร์ค (ซึ่งภายหลังมีอิทธิพลมาถึงเมืองไทยด้วย)

รวมถึง Woke Moment ที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อ PETA องค์กรพิทักษ์สัตว์ไม่แสวงหาผลกำไรในอเมริกา ออกแถลงการณ์ประนามประเทศไทยที่ใช้แรงงานลิงเก็บมะพร้าว ทันทีที่ภาพตัวแทนองค์กรยืนหน้าสถานทูตไทยในชุดนักโทษ แล้วราดกะทิลงบนตัว ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลของประเทศไทย (ถึงระดับที่เรียกได้ว่าร้อนแรง!!)

อย่างไรก็ดี แม้หลาย Movement ของชาว Woke จะเป็นสารตั้งต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ทว่าเมื่ออิสรภาพในการตีความถูกขยายออกไป ความขัดแย้งย่อมเป็นสิ่งที่มาคู่กัน

แม้การรณรงค์ของฝั่ง Woke จะร้อนแรงและเติบโตขึ้นเพียงใด แต่อีกฟากฝั่งหนึ่งของประตูบานนี้ ก็มี Anti – Woke ค่อย ๆ ปลุกกระแสขึ้นคู่ขนานกัน

ชนวนของความขัดแย้งนั้น มีทั้ง ‘จริต’ ที่ไม่เข้ากันจริง ๆ เป็นต้นว่า ชายที่เกิดมาท่ามกลางวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ไม่สามารถเข้าใจข้อเรียกร้องของเฟมินิสต์ได้ หรือการพลิกมาเป็น Anti – Woke เพื่อช่วงชิงผลประโยชน์ทางการเมือง เช่น รอน เดอซานติส อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และสมาชิกพรรครีพับลิกัน ที่พยายามผลักดันให้พระราชบัญญัติ Stop WOKE ผ่านสภานิติบัญญัติของรัฐ (แต่ไม่สำเร็จ) (CNN, 2024) หรือแม้แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เปิดฉากประกาศสงครามกับความ Woke ด้วยนโยบายต่อต้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม จนทลายภาพลักษณ์ ‘ดินแดนแห่งเสรีภาพ’ อย่างที่อเมริกาเคยมี

อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่าอีกหนึ่งชนวนสำคัญที่ทำให้กระแส Anti – Woke เริ่มรุนแรงและตีคู่กับ Woke อยู่ ณ ขณะนี้ คือการตีความผ่านเลนส์ชาว Woke ที่เกินพอดี จนบดบังใจความสำคัญของสิ่งนั้น ๆ ไป

อาจเป็นเพราะเรากำลังเข้าสู่ยุค “Content is KING” เหยื่อของการตีความเกิน Woke จึงมักเป็นคอนเทนต์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอยู่เสมอ

Cr. Guardian


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2023 ช่วงเวลาที่ The Little Mermaid ออกฉาย ความกล้าที่จะพลิกโฉมแอเรียลจากสาวผิวขาวผมแดงเป็นสาวผิวสี ทำให้รายได้ของดิสนีย์ต้องดิ่งลงเหว ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่าพวกเขากำลังยัดเยียดความ Woke ให้ผู้ชม จนไม่สนใจต้นฉบับ

และประวัติศาสตร์ก็ทำท่าจะซ้ำรอยอีกครั้ง เมื่อ Marvel เปิดตัวกัปตันอเมริกาคนใหม่ปี 2025 ในเวอร์ชันคนผิวสี จนกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์จักรวาล Marvel ที่ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์น้อยที่สุด พ่วงด้วยการเป็นชนวนสงครามหลายประเด็นระหว่างชาว Woke และ Anti-Woke 

การผลิตคอนเทนต์โดยพยายามแฝงเรื่อง ‘การตื่นรู้’ เข้าไปในทุกอณู จนทำลายหัวใจสำคัญของสิ่งที่จะนำเสนอ ไม่ใช่วิธีปลุกให้คนหมู่มากตื่นฉันใด การเสพคอนเทนต์ และพยายามยัดเยียดความเชื่อของตัวเองเข้าไป ก็ไม่ใช่วิธีที่ให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจฉันนั้น

Cr. The Mary Sue


กลางปี 2024 ที่ผ่านมา เกม Stella Blade บนเครื่องเล่น PS5 ออกจำหน่าย ท่ามกลางความดีใจของเด็กผู้ชาย (และผู้ใหญ่) ทั่วโลก Stella Blade ก็ถูกโจมตีอย่างหนัก เพราะตัวละครเอกหญิงในเกมที่มีบทบาทเด่นด้านการผจญภัย มีรูปร่างหน้าตาและทรวดทรงองค์เอวงดงามเกินผู้หญิงในสังคมทั่วไป จนถูกเสียดสีว่าสร้างขึ้นเพื่อสนองตัณหาของชายที่ไม่เคยสัมผัสหญิงตัวเป็น ๆ 

การตีความแบบ Woke เกิน Woke ไม่ได้มีให้เห็นแค่ในเกม หรือภาพยนตร์เท่านั้น การแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียก็เช่นกัน อาทิ กระแสวิพากษ์ว่าทำไม Virtual Influencer จึงสวยตาม Beauty Standard หรือการมุ่งโจมตี / กล่าวหาคนอื่นว่าอยู่คนละข้างกับความเท่าเทียม โดยตัดสินใจแค่จากคอมเมนต์ หรือโพสต์ไม่กี่ประโยค

ตัวอย่างการผลิต / เสพคอนเทนต์แบบ Woke เกินพอดีทั้งหมดที่ยกมานี้ แสดงให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใจความของแนวคิด Woke แต่อยู่ที่การจำกัดขอบเขตของผู้ใช้

เพราะการพยายามนำมุมมองของ Woke ไปจับกับทุกสิ่ง โดยละทิ้งบริบทรอบข้าง นอกจากจะทำให้คนรุ่นหลัง (หรือแม้แต่รุ่นเดียวกัน) เข้าใจหมุดหมายของคำว่า Woke ผิดไป ยังเป็นบ่อเกิดความขัดแย้งที่ไม่นำไปสู่การตื่นรู้ในอะไรเลย

References:

What does ‘woke’ mean and why are some conservatives using it?

abc news: https://abcnews.go.com/Politics/woke-conservatives/story?id=93051138 

‘Another woke disaster from Hollywood!’ How Captain America joined the culture wars

The Guardian: https://www.theguardian.com/film/2025/feb/14/woke-disaster-hollywood-how-captain-america-joined-culture-wars 

‘Captain America’ Becomes One Of Marvel’s Worst-Reviewed Films Amid Protests From Progressives And Conservatives

Forbes: https://www.forbes.com/sites/conormurray/2025/02/13/captain-america-becomes-one-of-marvels-worst-reviewed-films-amid-protests-from-progressives-and-conservatives/ 

What does the word ‘woke’ really mean, and where does it come from?

npr: https://www.npr.org/2023/07/19/1188543449/what-does-the-word-woke-really-mean-and-where-does-it-come-from 

Stay Woke

Merriam: https://www.merriam-webster.com/wordplay/woke-meaning-origin 

A history of “wokeness”

VOX: https://www.vox.com/culture/21437879/stay-woke-wokeness-history-origin-evolution-controversy