จาก Online สู่ In-Store ยกระดับประสบการณ์ผ่าน Influencer - TIA2024

จาก Online สู่ In-Store ยกระดับประสบการณ์ผ่าน Influencer

ประเด็นที่น่าสนใจในงาน The Mall Lifestore Presents Thailand Influencer Awards by Tellscore  ครั้งที่ 6 โดย คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

ในยุคที่โลกธุรกิจรีเทลกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัล การก้าวเข้าสู่การปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเรามองเห็นพลังของเทรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิถีการค้าแบบเดิมๆ อย่างที่ คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้กล่าวไว้ “ธุรกิจรีเทลต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อกระแสและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด” 


อนาคตของธุรกิจค้าปลีก: สู่ประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและน่าประทับใจ

แนวโน้มสำคัญของธุรกิจค้าปลีกในอนาคตที่มุ่งเน้นการผสมผสานความสะดวกสบาย เทคโนโลยี และการปรับแต่งเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ดังนี้

  1. Omnichannel Integration (การผสานช่องทางการขาย): ผู้ค้าปลีกกำลังเชื่อมโยงช่องทางการขายทั้งในร้านค้าและออนไลน์เข้าด้วยกัน ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางต่างๆ
  2. Personalization & AI (การปรับแต่งส่วนบุคคลและปัญญาประดิษฐ์): ธุรกิจค้าปลีกใช้ข้อมูลและ AI ในการปรับแต่งประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและความภักดีต่อแบรนด์
  3. Immersive Tech (AR/VR): เทคโนโลยีเสมือนจริงและความเป็นจริงเสริมช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งในร้านค้า เช่น การลองสินค้าเสมือนจริง หรือการชมสินค้าในรูปแบบ 3 มิติ
  4. Sustainability (ความยั่งยืน): ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจค้าปลีกจึงหันมาเน้นการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดหาสินค้าที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน
  5. Contactless Shopping (การช้อปปิ้งแบบไร้สัมผัส): การชำระเงินแบบไร้เงินสดและการชำระเงินด้วยตนเองเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายและลดการสัมผัส
  6. บริการลูกค้าด้วย AI (AI Customer Service): การใช้แชทบอทและผู้ช่วยเสมือนจริงเพื่อให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงจุด ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
  7. ค้าปลีกเชิงประสบการณ์ (Experiential Retail): ร้านค้าจะกลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากขึ้น โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ป๊อปอัพสโตร์ หรืออีเว้นท์ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้า
  8. เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology): การใช้ IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าคงคลัง และมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นให้กับลูกค้า
  9. โปรแกรมความภักดี (Loyalty Programs): การนำเสนอโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้า และส่งเสริมให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
  10. สุขอนามัยและความปลอดภัย (Health & Safety): การให้ความสำคัญกับความสะอาดและความปลอดภัยในร้านค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า


    การเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนธุรกิจรีเทลในยุคใหม่

    ปัจจุบัน ธุรกิจรีเทลกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หัวใจของความสำเร็จอย่าหนึ่ง คือการปรับตัวสู่โมเดล Omnichannel Integration ที่ผสานช่องทางการขายออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เชื่อมโยงกันทั้งระบบ ไม่ว่าลูกค้าจะเข้าถึงสินค้าผ่านช่องทางใด ธุรกิจจึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยี AI และ AR/VR เข้ามาช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวและจำลองประสบการณ์สินค้าให้เสมือนจริง ขณะเดียวกัน แนวโน้มของ Media Fragmentation ยังคงเติบโต การเข้าถึงผู้บริโภคที่กระจายตัวในแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ กลายเป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องปรับตัวด้วยการทำงานร่วมกับ Influencer และ Creator เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจผู้บริโภค พร้อมกันนั้น การสร้างภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืน (Sustainability) และการช้อปปิ้งแบบไร้สัมผัส (Contactless Shopping) ยิ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จในโลกรีเทลยุคใหม่ที่ทั้งเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่สามารถนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด จะมีความได้เปรียบในยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงนี้



    Influencer กับการสร้างความสำเร็จ

    ในยุคที่ความน่าเชื่อถือของแบรนด์สามารถสร้างหรือทำลายความสำเร็จได้ การร่วมมือกับ Influencer จึงเป็นเรื่องสำคัญในการขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้และยอดขาย Influencer ไม่ได้เป็นเพียงผู้แนะนำสินค้าแต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่น่าดึงดูด ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะไว้วางใจคำแนะนำจากคนที่พวกเขาติดตามและเชื่อถือ การนำพลังของ Influencer มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องทำอย่างเป็นระบบและเน้นความสอดคล้องกับค่านิยมของแบรนด์

    นอกจากนี้ การปรับใช้ AI Consumer Service อย่างแชทบอทที่ตอบคำถามหรือแนะนำสินค้าได้อย่างแม่นยำจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแก่ลูกค้า อีกทั้ง การใช้ Smart Technology เช่น Big Data และ Cloud Computing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


    พฤติกรรมผู้บริโภคที่ควรจับตามอง

    ความคาดหวังของผู้บริโภคต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งนั้นสูงขึ้นทุกวัน ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีคุณภาพพร้อมกับความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ พวกเขายังต้องการความเป็นส่วนตัวในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งเทคโนโลยี Data-driven มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า ทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองได้อย่างตรงใจ

    แม้ว่าเทรนด์การช้อปปิ้งจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ Brand Loyalty หรือความภักดีต่อแบรนด์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการดึงดูดและรักษาลูกค้า การพัฒนาโปรแกรมสะสมคะแนนให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนและต้องการความยืดหยุ่นเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างความผูกพันและความภักดีในระยะยาว


    บทบาทของ Creator ในยุคดิจิทัล

    ในยุคที่ทุกคนสามารถเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ได้ Creator หรือผู้สร้างสรรค์เนื้อหาจึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการตลาดยุคใหม่ ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจรีเทลที่ประสบความสำเร็จจะเป็นธุรกิจที่สามารถทำงานร่วมกับ Creator ได้อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณค่าและมีผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมาย



    อนาคตของธุรกิจรีเทล

    ด้วยความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ธุรกิจรีเทลที่ต้องการประสบความสำเร็จในอนาคตจะต้องมีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้เร็ว และพร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้า การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ การสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงกับลูกค้า หรือการปรับตัวให้เข้ากับกระแสสังคม เป็นปัจจัยที่จะกำหนดทิศทางของความสำเร็จในยุคดิจิทัลนี้