คุณโจ้ จิรวัฒน์ Youtuber ที่หลงใหลในความเท่ห์ของ Supercar จากความชื่นชอบในวัยเด็ก ที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้ครอบครองมัน

Youtuber ที่หลงใหลในความเท่ห์ของ Supercar จากความชื่นชอบในวัยเด็ก ที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้ครอบครองมัน

Introduction

  • ความหลงใหลใน ‘รถยนต์’ ที่มองว่ารถยนต์เป็นมากกว่ายานพาหนะ
  • เมื่อความคิดไม่หยุดนิ่ง หยิบสิ่งที่ชอบมาสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง
  • การเรียนรู้จากประสบการณ์และวิธีของคนอื่น เพื่อนำมาปรับใช้กับการใช้ชีวิตของตัวเอง

วันนี้ 9Conversations จะพาคุยกับ Youtuber ที่หลงใหลในความเท่ห์ของ Supercar จากความชื่นชอบในวัยเด็ก ที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้ครอบครองมัน และกลายเป็นคนที่คอยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Supercar ส่งต่อความรู้ ความชอบให้กับคนอื่น จนกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘คุณโจ้ Life of Cars BKK’ เรื่องราวทั้งหมดจะมีจุดเริ่มต้นจากจุดไหนวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเขาพร้อมกัน

สิ่งที่ตัวเองชอบมีอะไรบ้าง?

เริ่มต้นด้วยการชวนให้ทุกคนได้ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘สิ่งที่ตัวเองชอบมีอะไรบ้าง?’ เราทุกคนต่างมีสิ่งที่ชอบแตกต่างกันไป อาจจะเป็นสิ่งใดก็ได้บนโลก แต่สำหรับมุมมองของคุณโจ้นั้นจะเป็นอย่างไร

“ผมเชื่อว่าผู้ชายชอบอยู่ไม่กี่อย่าง รถยนต์ นาฬิกา แบรนด์เนม แต่ตัวผมชอบที่สุดก็คือ รถยนต์”

คุณโจ้ได้ให้เหตุผลที่ว่า รถยนต์เป็นพาหนะ ที่สามารถบ่งบองถึงตัวตนของคนขับได้ ทั้งในแง่ความชอบส่วนตัวที่จะเป็นแบบไหน มีความมั่นใจอย่างไร รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของคนนั้น

 “ผมก็รู้สึกว่า รถยนต์ มันเป็นมากกว่ายานพาหนะ”

จุดประกายความชอบ Supercar

“สมัยเด็กๆ จะเห็นตาม Poster อย่าง Lamborghini รุ่น diablo เก่าๆ เลยนะ ตอนนี้ก็น่าจะ 20 ปีกว่าปีแล้ว แต่มันมีความเท่ห์ มันไม่เหมือนรถยนต์ทั่วไป พอเห็นครั้งแรก เราก็แบบ โห้ ชอบมาก”

“Lamborghini เป็นแบรนด์ที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสครอบครองจริงๆ”

จุดประกายความชอบใน Supercar ถือกำเนิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น ใครจะไปคาดคิดว่าสิ่งที่เด็กคนหนึ่งใฝ่ฝันมาตลอดจะกลายเป็นความจริงขึ้นมา สำหรับใครที่มีสิ่งที่ใฝ่ฝันไว้อยู่แล้ว การนำสิ่งนั้นมาตั้งเป็นเป้าหมายให้กับชีวิตของเรา มันอาจจะทำให้ตัวเรามีแรงผลักดันที่ดี ให้เราตั้งใจทำเป้าหมายให้สำเร็จจนได้ เพื่อสุดท้ายอย่างน้อย เราจะได้ความสุขเป็นสิ่งตอบแทน

ถ้าถามความรู้สึกจริงๆ วันที่เรามีความสุขที่สุดก็คือ มันจะมีอยู่ 2 วัน คือ วันที่เราจ่ายเงิน กับ วันที่ตื่นมารับรถ และนั้นคือ 2 วันที่มีความสุขที่สุด”

แต่นั้นไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าความสุขนั้นจะเท่าเดิมไปตลอด เพราะสิ่งของเมื่อถูกใช้งานไปความตื่นเต้นกับของสิ่งนั้นอาจไม่คงเดิมเท่ากับในตอนแรก แต่มันสามารถกลายเป็นเหมือนสิ่งที่ย้ำเตือนให้เรานึกถึงความสุขเมื่อครั้งที่เราได้รับมันมา นึกถึงความสำเร็จของเป้าหมายในครั้งนั้น เพื่อก้าวสู่เส้นทางเป้าหมายในครั้งต่อไป

“ผมมองว่าการที่เราซื้อรถ หรือได้ครอบครองรถ มันเป็นเหมือนเป้าหมายของคนเรา ที่มันสามารถขยับไปได้เรื่อยๆ วันหนึ่งที่เรามาถึงจุดนี้แล้ว มาถึงคันนี้แล้ว เราก็จะอยากได้สูงกว่านี้ไปอีก”

เส้นทางสู่การเป็น Youtuber ผู้ติดตาม 8 แสน

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยไม่ต่างจากนักศึกษาคนอื่นๆ ที่ในหนึ่งวันมีเรียน ตอนเที่ยงกินข้าว และตกเย็นออกไปเที่ยวกับเพื่อน ใช้ชีวิตปกติอยู่นานปี แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น คือ ‘ความคิด’

“ตอนมหาวิทยาลัยปี 2 ผมเรียนมหาวิทยาลัยที่มหิดล แล้วรู้สึกว่าชีวิตมันว่าง เพราะว่าบางวันก็เรียนแค่วิชาเดียว บางวันเรียน 2 คาบ 3 คาบ ตื่นมาไปเรียน กินข้าว ตกเย็นแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ไปเที่ยวกับเพื่อน วนลูปแบบนี้ทั้งปี”

“ผมก็เลยรู้สึกว่ามันจะมีอะไรบ้างมั้ย? ที่เรารู้สึกทำ แล้วมันจะสร้างคุณค่าให้กับตัวเองได้ในอนาคต”

นำ ‘ความคิด’ มาผนวกกับ ‘ความชอบ’ เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าอยากที่จะอะไรสักอย่างหนึ่ง ให้ลองคิดกับตัวเราเองว่าจริงๆ แล้วเรามีสิ่งใดที่ชอบบ้าง จากเรื่องใกล้ตัว กิจวัตรประจำวัน สิ่งที่ชอบดู อาหารที่ชอบกิน เสื้อผ้าที่ชอบใส่ เรื่องราวความชอบทั้งหมดจากตัวเราจะนำพาเราไปสู่เส้นทางที่ใช่สำหรับเราได้ เช่นเดียวกับคุณโจ้

“มันเริ่มจากการที่เราอยากทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วประกอบกับที่ผมเป็นคนที่ชอบดู Youtube ดู Cartuber ของต่างประเทศมาก เราก็เกิดไอเดีย แล้วจริงๆ ที่ไทยตอนนั้นมันยังไม่ค่อยมี เราน่าจะทำได้ มันดูไม่ยาก เลยตัดสินใจลองทำดู”

แต่คำว่า ‘ไม่ยาก’ มันมีอยู่จริงหรือในชีวิต หรือแม้กระทั่งในการทำ Youtube ทุกเส้นทางมีความยาก-ง่ายที่ต่างกันไป แต่เราจะรู้ได้ว่าเป็นอย่างไรต่อเมื่อเรานั้นได้ลงมือทำ คุณโจ้เองมีมุมมองการทำ Youtube ที่น่าสนใจ มีเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นสิ่งที่สามารถนำมาดัดแปลงในการใช้ชีวิตของเราได้ในหลายๆ เรื่อง

“ถ้าถามในมุมมองของการทำ Youtube อย่าเอาเป้าเราไปผูกไว้กับยอดวิว ยอดคนดู หรือว่ายอดขาย ณ ตอนนั้น เพราะว่ามันจะทำให้เราทำได้ไม่นาน เราต้องมาดูว่า สิ่งที่เราทำอยู่ มันจะสร้างประโยชน์ หรือทำอะไรให้กับลูกค้าเรา คนดูเรา หรือพาร์ทเนอร์ของเราได้มากกว่า”

“เราอยากจะให้อะไรเขา ที่ไม่ใช่แค่ขายของอย่างเดียว” 

การที่เราไม่ยึดติดกับสิ่งใดมากเกินไป แล้วลองนึกถึงมุมมองอื่นๆ มันอาจจะช่วยให้เราไปถึงเส้นทางที่จะนำเราไปสู่เป้าหมายได้เหมือนกันนะ

“จริงๆ มันสนุกตรงที่ ผมชอบเป็นคนเล่าเรื่อง เราอยากจะเล่า เหมือนเวลาที่เรามีเพื่อน
เราอยากจะเล่าว่า รถคนนี้มันดียังไง มันเจ๋งยังไง” 

และเมื่อได้ถ่ายทอดความชอบของเราออกไปให้คนอื่นได้รับฟัง ผ่านความรู้สึกที่ออกมาจริงๆ จึงดึงดูดให้คนเข้ามาติดตาม สานต่อจินตนาการในวัยเด็ก ความอยากรู้ใคร่รู้ในสิ่งที่ชอบ

“สมัยก่อน แรกๆ มันเริ่มจากการที่เราชอบ ชอบอ่าน ชอบดู ชอบจินตนาการว่า ถ้ามีโอกาสได้ขับรถรุ่นนี้ คันนี้มันจะเป็นยังไง มันมาจากสิ่งที่ตัวเราชอบ เราก็จะไปหาอ่านดูตามเว็บบอร์ดต่างประเทศ ตาม Youtube ต่างประเทศ เราก็ไปอ่าน ไปซึมซับมา ว่ารถคันนี้มันเป็นแบบนี้”

และในตอนนี้ที่คุณโจ้ มีโอกาสที่มากกว่าจินตนาการ มีโอกาสได้ลองขับ ลองใช้จริง จึงนำความรู้จากข้อมูลที่ศึกษามาทั้งหมด ผนวกเข้ากับประสบการณ์ที่ได้สัมผัส ถ่ายทอดเป็นคำพูดส่งต่อให้กับผู้ติดตาม นอกจากนี้คุณโจ้ยังได้เผยว่า จากเมื่อก่อนที่ต้องศึกษาข้อมูลเองคนเดียวทั้งหมด แต่ตอนนี้ได้มีทีมที่ความชอบเหมือนกัน จึงทำให้การทำงานมันมีลื่นไหล สนุกได้มากกว่าขึ้น

เสน่ห์ที่แตกต่างของ Supercar

“มันเป็นเรื่องที่แล้วแต่บุคคลมากจริงๆ บางคนชอบที่รูปทรง บางคนชอบที่ขับแล้วไม่เหมือนใคร บางคนชอบ Performance แต่สำหรับผมมันคือ ทุกอย่าง”

“เสน่ห์ของเขาแน่นอนแหละมันคือ Performance เพราะว่าด้วยความที่เป็นรถ Supercar มันมีทั้งเครื่องที่แรง สมรรถนะสูง”

สิ่งเหล่านี้สร้างให้ Supercar มี Character ที่แตกต่างกันของรถ ทั้งในเรื่อง Performance เครื่องแรง สมรรถนะสูง Adrenaline มีความเร้าใจ รวมกันเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของรถ Supercar

หลังจากที่เราได้รู้ถึงเสน่ห์ของรถ Super Car ในมุมมองของคุณโจ้ จึงอยากถามต่อในส่วนของเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ระหว่าง Lamborghini ต่างจาก Ferrari ในฐานะกูรูด้าน Supercar อย่างคุณโจ้มองว่ามันต่างกันอย่างไรนะ

“เอาจริงๆ ผมว่าเราไม่สามารถตัดสินได้ว่า รถกลุ่มนี้เหมาะกับคนกลุ่มไหน”

แต่ถ้าให้เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวของตัวคุณโจ้และเพื่อนๆ ในกลุ่มที่คุ้นเคยกับรถยนต์ คุณโจ้ได้เห็นความคิดเห็นที่ว่า

“ถ้าขับ Ferrari คุณต้องได้ความตื่นเต้นตลอดเวลา คุณเสียเงิน 20-50 ล้าน รถต้องรีด Adrenaline ได้ทุกครั้งที่ขับ” 

“รูปทรงอ่อนช้อย ม้วน โค้ง ดู Classic รูปทรงไม่ได้ดุดันเหมือน Lamborghini”

เขยิบมาในส่วนของ Lamborghini ที่ส่วนใหญ่ผู้ที่ครอบครองจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นและเป็นหนึ่งในรถยนต์แบรนด์แรกที่คุณโจ้ได้เลือกซื้อด้วยเงินของตัวเอง

“Lamborghini ส่วนนึงเป็นวัยรุ่น เพราะรูปทรงมันวัยรุ่นกว่า ดูล้ำๆ ดุดัน”


“ผมโตมากับคำว่า Lamborghini ถามเด็กๆ ว่าอยากได้รถเท่ห์ๆ จะตอบกันว่า Lamborghini”

ความแตกต่างของคนขับที่ชอบในแต่ละแบรนด์อาจจะมีความคล้ายคลึงกับสาวกโทรศัพท์มือถือ อย่าง iPhone และ Android ที่จะมีความขิงกันว่าของใครดีกว่าใคร แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ไม่ได้แปลว่าแบรนด์ไหนดีกว่าแบรนด์ใด

เรียนรู้ชีวิตจากประสบการณ์คนอื่น

เราได้ถามถึงสิ่งที่เป็นต้นแบบที่นำพาให้คุณโจ้ได้สตาร์ทเข้าสู่เส้นทางนี้ ประเด็นที่คุณโจ้ได้ให้คำตอบกับเรา
คือ ‘การเรียนรู้ชีวิตจากประสบการณ์ของคนอื่น’ อย่ามัวแค่ตั้งคำถาม ให้ลองหาคำตอบ เราสามารถได้เรียนรู้อะไรมากมายจากความคิดของคนอื่น 

“หลายๆ คนจะชอบถามคนที่ประสบความสำเร็จว่า ทำยังไง เริ่มยังไง แต่จริงๆ ผมว่าวิธีการมันไม่สำคัญเลย มันอยู่ที่วิธีคิด อยู่ที่ว่าเขาคิดยังไง”

“เราเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง เขาโดนอะไรมาบ้าง เขาทำแบบนี้แล้วไปไม่รอด เพราะอะไร โดยที่เราไม่ต้องไปเจ็บเอง แต่เราได้เรียนรู้จากเขามา” 

“ถ้าเราไปแข่งอะไรมา แล้วเราชนะ เราจะไม่เคยมาย้อนถามดูว่า เราทำอะไร เราถึงชนะ แต่เมื่อเราไม่ชนะเมื่อไหร่ เราแพ้เมื่อไหร่ เราล้มเมื่อไหร่ เราถึงจะได้เรียนรู้ว่าเราทำอะไรถึงแพ้”

อีกสิ่งหนึ่งที่คุณโจ้ได้ให้ข้อคิดเอาไว้ และสำหรับเรามองว่าเป็นเรื่องที่จริงมากๆ ในการใช้ชีวิต เพราะชีวิตของเรา ณ ตอนนี้เหมือนอยู่ในมหาวิทยาลัยไปทั้งชีวิต มีเรื่องให้เราเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพียงแค่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ตำรา แต่เป็นการเรียนรู้จากการใช้ชีวิตจริง

เงิน ไม่ได้พาเราไปได้ทุกที่

เมื่อเดินทางมาถึงจุดที่คุณโจ้สามารถเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อคนอื่นได้ มันทั้งด้านบวก และด้านลบเข้ามาในชีวิตการคอมเมนต์ ยิ่งในโลกของโซเชียลมิเดียในทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้หมด คุณโจ้มีวิธีการรับมือ หรือวางตัวอย่างไร ที่ทำให้คุณโจ้เป็นอย่างที่วันนี้

“การวางตัวที่ดีมันจะพาเราไปในที่ๆ เงินพาเราไปไม่ได้ ถ้าเราเป็นคนที่คิดจะเอาเปรียบตลอด หรือคิดอะไรที่มันเป็นลบ เราก็จะดึงดูดเอาคนแบบนั้นเข้ามา 

…แต่ถ้าวันหนึ่งที่เราทำใจให้มันเป็น Positive ได้ ให้มันเป็นด้านบวกได้  เรามีเมตตามากขึ้นได้ ไม่ต้องทำอะไรใหญ่โต ไม่ต้องไปสร้างวัด แต่สิ่งเล็กๆ เหล่านั้นมันจะเป็นจุดเปลี่ยนให้เราในอนาคต”

อยากขับ Supercar ต้องเป็น Super คน

“รถที่ชื่อ Supercar เพราะคนที่จะครอบครองได้คุณจะต้องเป็น Super คนหรือ Super ในด้านอาชีพนั้นเหมือนกัน คุณจะเป็น Expert ในด้านนี้มากๆ เหมือนกัน” 

ประโยคข้อคิดที่พ่อของคุณโจ้เคยได้กล่าวเอาไว้ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณโจ้เลือกทำในสิ่งที่ทำอย่างทุกวันนี้อย่างเต็มที่ เลือกทำอะไรให้เป็น Super มากกว่าคนอื่น เพื่อจะได้ครอบครอง Supercar อย่างที่ตั้งใจ

“ทำให้สุด ทำให้เต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว กับทำสุดชีวิตแล้ว”

มันมีความแตกต่างกันระหว่างคำว่า ‘ทำดีที่สุดแล้ว’ กับ ‘ทำสุดชีวิตแล้ว’ เพราะคำว่า ‘ความสำเร็จ’ มันใหญ่มาก ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำวันนี้เพื่อพรุ่งนี้ให้ออกมาสำเร็จได้ทันที แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะหยุดเต็มที่กับมัน จึงอยากให้ทุกคนลองทำวันนี้ให้สุดทางเพื่ออนาคต และสุดท้ายไม่ว่าเราจะเรียนรู้ทางไหนก็ตาม เพราะว่าทำให้สุดไป เราไม่มีเสีย เรามีแต่ได้

และทั้งหมดนี้คือมุมมองของ คุณโจ้ จิรวัชร์ หรือ โจ้ Life of Cars BKK ที่นำมาฝากให้ทุกคนได้รู้จักกับเขามากขึ้น ทั้งแง่คิดในการใช้ชีวิตที่ได้ ทุกคนสามารถหยิบสิ่งที่คิดว่าเข้ากับตัวของคุณไปประยุกต์ใช้กับชีวิตของคุณ เพื่อเป็นเส้นทางให้ได้เราออกเดินทางไปยังเป้าหมายของคุณเอง