เจ้าแม่แห่งคอนเทนต์การแยกร่าง
ฮาย Haiseoul Channel เจ้าแม่แห่งคอนเทนต์การแยกร่าง
Introduction
- แยกร่างตัวเองออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน จนกลายเป็นคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของช่อง
- เข้ามาอยู่ในวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำมาตลอดทั้งตัดต่อ ตัดคลิป เป็นคนเบื้องหลัง จนถึงคอนเทนต์ครีเอเตอร์
- ถึงแม้คอนเทนต์จะแยกร่างได้ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวคนเดียว
- การทำงานที่บ้านกับกรีนสกรีน
“เจนค่ะ เจนค่ะ หนูชื่อเจนมากับนุ่นและก็มากับโบว์โบว์ค่ะ
โบว์ค่ะ หนูชื่อโบว์มากับนุ่นและก็มากับเจน
นุ่นค่ะ นุ่นค่ะ หนูชื่อนุ่นมากับเจนและก็มากับโบว์”
เพลงฮิตในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่ยังคงติดหูใครหลายๆ คน หนึ่งในคนที่ปลุกปั้นกระแสนี้จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วไทยก็คือ ‘คุณฮาย’ เจ้าของเพจ และช่อง Haiseoul Channel ที่นำเพลงนี้มาคัฟเวอร์ได้แบบไม่เหมือนใคร เพราะคุณฮายเลือกที่จะแยกร่างตัวเองออกมา 3 ร่าง พร้อมกำหนดคาแรคเตอร์ให้ร่างแยกตัวเองแบบชัดเจน จนทำยอดวิวบน YouTube แค่แพลตฟอร์มเดียวก็สูงถึง 18 ล้านวิวเข้าไปแล้ว
หลังจากนั้นเป็นต้นมาคุณฮายก็แยกร่างตัวเองออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน จนกลายเป็นคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะช่อง Haiseoul Channel ซึ่งหากจะยกให้คุณฮายเป็นเจ้าแม่แห่งการแยกร่างก็คงไม่เกินไปนัก แต่กว่าจะกลายมาเป็นคุณฮาย Haiseoul Channel เธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง และมีแนวคิดในการทำคอนเทนต์อย่างไร วันนี้ 9Conversations จะพาทุกคนไปรู้จักตัวตนกับเธอให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์สุด Exclusive ในครั้งนี้ค่ะ
แนะนำตัวให้เราฟังหน่อย
“จริงๆ ชื่อเกิดของฮายคือ สันติสุข สายแจ่มใส” คุณฮายเริ่มแนะนำตัวเองให้เราฟังแบบสั้นๆ แต่สิ่งที่เราสงสัย (และหลายคนอาจสงสัย) ก็คือที่มาที่ไปของชื่อปัจจุบันอย่าง ‘พิชญ์พิสิฐฎ์เสฎ’
“พอพ่อเสีย แม่อยากให้เปลี่ยนนามสกุล เลยเปลี่ยนมาใช้นามสกุลโชคชัย ตอนที่ฮายเรียนปี 3 ปี 4 กำลังอินกับการดูดวง ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นที่รู้สึกว่าชีวิต การงานไม่ปังเท่าไหร่ เลยไปดูดวงกับเพื่อน หมอดูก็ทักว่า ให้หาชื่อที่มันยากๆ ชีวิตจะได้ง่ายๆ มันจะได้สวนทางกัน”
“ไม่ได้อยากใช้ชื่อนี้เพราะมันเขียนยาก สะกดยาก (หัวเราะ) ซึ่งคิดว่าน่าจะต้องมีแพลนไปเปลี่ยนชื่อให้มันสั้นลงอีกสักหน่อย แต่รู้สึกว่าตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมา ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จดี ไม่ค่อยมีปัญหา เป็นกุศโลบายของตัวเองว่ามันจะต้องดีขึ้น เราก็เลยทำตัวเองให้ดีขึ้น”
ส่วนชื่อแชนแนล ‘Haiseoul’ มีที่มาจากชื่อเล่น ‘ฮาย’ ที่ดันไปพ้องกับชื่อเล่นคนดังๆ เช่น ฮาย อาภาพร เวลาคนถามก็มักจะถามว่า ฮายไหน
“ตอนที่เราตั้งชื่อช่องก็นั่งคิดว่าจะตั้งฉายาให้ตัวเองว่าอะไรดี ตอนนั้นเราอินกับการ cover เกาหลี กำลังบูมๆ พวก Girl Generations, Wonder Girls ซึ่งถ้าพูดถึงสิ่งที่ดังๆ ในเกาหลีก็ต้องกรุงโซล ก็เลยเอาเป็น ฮายโซล (Haiseoul) แล้วกัน จะได้พ้องกับคำว่าไฮโซด้วย”
เห็นว่าชีวิตกำลังแฮปปี้ มีความรัก ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“พูดไปก็เขินตัวเอง ตอนนี้ก็ดีค่ะ แต่ว่าไม่ได้เจอกันมา 2-3 เดือนแล้วเพราะอยู่กันคนละที่ ฮายก็ไม่ได้มีเวลาไปหาเค้าด้วย แต่ก็คุยกันตลอด”
ด้วยความสัมพันธ์ของคุณฮายเป็นแบบรักทางไกล (Long Distance Relationship) ทำให้เราอดถามไม่ได้ถึงเทคนิคในการจัดการความสัมพันธ์แบบนี้จากคุณฮาย
“ตั้งแต่มีแฟนมาในชีวิต การมีแฟนไกลๆ จะเลิกกันตลอด ไม่เคยจะประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก เคยมีแฟนอยู่ภูเก็ตยังเลิกกันเลย แต่แฟนคนปัจจุบันอยู่นราธิวาส ไกลกว่าเดิมอีก แต่โชคดีที่สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนเพราะมีวิดีโอคอล ให้เราได้คุยเห็นหน้ากันทุกวัน ทำให้รู้สึกไม่ไกล”
นอกจากการเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของคุณฮายแล้ว พักหลังจะเห็นว่าแชนแนลของคุณฮายก็จะมีคุณแฟนร่วมทำคอนเทนต์น่ารักๆ ด้วยเช่นกัน ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า การมีแฟนจะทำให้สไตล์การทำคอนเทนต์จะเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยหรือไม่ ?
“จริงๆ แล้วคุณฮายไม่ได้เป็นคนที่ชอบทำคอนเทนต์สักเท่าไหร่ และไม่ได้ทำคอนเทนต์ตามกระแส แต่แฟนเป็นคนที่ชอบทำคอนเทนต์มากๆ ชอบเต้น ทำให้พักหลังเรามักจะเห็นคอนเทนต์ที่เต้นคู่กับแฟนอยู่บ่อยๆ”
ส่วนสไตล์การทำคอนเทนต์ คุณฮายมองว่าก็ยังคงจะเป็นคุณฮายเหมือนเดิมอย่างที่หลายคนรู้จัก
“เพราะปกติคนตามฮายมาจากการแยกร่าง เราเกรงใจคนดู”
แต่หลังจากที่เริ่มนำแฟนมาทำคอนเทนต์ด้วยก็ได้รับ feedback จากคนดูที่ดี ซึ่งทำให้เราน่าจะได้เห็นคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ จากคุณฮายมากขึ้น
ก้าวต่อไปของช่อง Haiseoul
“ฮายไม่ได้ตั้งอะไรไปไกลมากๆ ฮายเอาปัจจุบัน โฟกัสงานของทุกวันนี้ก่อน ฮายไม่รู้ว่าอนาคตฮายจะมีแรงอัดคลิป ตัดคลิป เพราะฮายทำทุกอย่างหมด ฮายไม่รู้ว่าจะเหนื่อย และอยากพักตัวเองตอนไหน”
“ก้าวต่อไปยังคิดภาพไม่ออกว่าจะทำไปถึงไหน ตอนนี้ทำไปเรื่อยๆ passion ยังมีอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้มีความคิดว่าจะล้มเลิก ก็ยังจะแยกร่างต่อไปเรื่อยๆ แยกร่างให้มากขึ้น ”
คำตอบของคุณฮายแสนเรียบง่าย แต่ก็สะท้อนให้เราเห็นอะไรในหลายๆ มุม เพราะจริงๆ แล้วคุณฮายก้าวเข้ามาอยู่ในวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำมาตลอดทั้งตัดต่อ ตัดคลิป เป็นคนเบื้องหลัง จนถึงคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซึ่งอาจพูดได้ว่าคุณฮายเหนื่อยมาด้วยตัวคนเดียวตลอดจนถึงวัย 28 ในปีนี้ และอาจต้องการตัวช่วยอะไรสักอย่าง ซึ่งถ้าสมมติว่าวันนึงคุณฮายสามารถแยกร่างตัวเองออกมาได้จริงๆ จะแยกออกมาทำอะไรบ้างนะ?
“หลายๆ คนน่าจะมีความคิดเหมือนฮาย เราอยากจะมีเราหลายๆ คน จัดการต่างๆ อย่างฮายเอง อยากมีตากล้องที่เป็นเราเอง อยากมีคนจัดหาเสื้อผ้าที่เป็นเราเอง อยากมีช่างแต่งหน้าที่เป็นเราเอง ที่อยากแยกตัวเองออกมาไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่ดีนะคะ แต่คนอื่นอาจไม่ใช่ Type เรา ไม่ถูกใจเรา ถ้าเราพูดออกไปคนนั้นก็อาจรู้สึกไม่ดี แก้ปัญหาด้วยการทำด้วยตัวเองดีกว่า”
“แยกร่างออกมาได้จริงๆ ก็ดีเหมือนกันเพราะจะรู้นิสัยตัวเอง อยากตื่นมาแล้วมีคนทำทุกอย่างได้เลย ส่วนเราอยากมีอยู่บทบาทเดียวคือ นอน ให้ตัวเราอีกคนนึงทำไป ส่วนตัวเรานอนก่อน”
แม้ว่าตอนนี้จะยังแยกร่างออกมาไม่ได้จริง แต่การทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวคนเดียวโดยเฉพาะเรื่องคอนเทนต์ ก็อาจจะมีจุดที่สมองของเรารู้สึกตันจนคิดงานไม่ออก อยากรู้ว่าคุณฮายมีเทคนิคจัดการปัญหานี้อย่างไร ?
“ง่ายๆ คือไปนอนก่อน” พอนอนปั๊บตื่นมาแล้วสมองโล่ง” คุณฮายเล่าให้ฟังต่อว่าตัวเองมักจะคิดอะไรออกก่อนนอนอยู่เป็นประจำ ถ้าคิดอะไรออกก็จะพิมพ์ใส่โทรศัพท์เอาไว้เดี๋ยวนั้นเลย บางครั้งการผูกเรื่องราวบางอย่างเข้ากับประสบการณ์ส่วนตัวก็ช่วยให้คิดงานออกได้เหมือนกัน หรือบางครั้งไปนั่งอยู่เฉยๆ อยู่ริมทะเล ริมชายหาดมองวิวแบบไม่ต้องคิดอะไร มันช่วยผ่อนคลายสมอง แล้วก็อาจ
“ฮายนั่งอยู่ในห้องสตูดิโอ นั่งอยู่กับกรีนสกรีนทั้งวัน ไม่ได้เจออะไรนอกจากผ้าเขียวผืนนึงกับหน้าจอคอม”
การพักผ่อนหย่อนใจจากการทำงานชั่วครู่ก็อาจทำให้เราคิดอะไรออกเหมือนกัน คุณฮายเล่าต่อว่า เวลาเราพักแต่สมองเราไม่ได้พัก มันยังคิดงานคิดไอเดียใหม่ๆ อยู่ตลอด ซึ่งอาจจะทำให้เราปิ๊งไอเดียคอนเทนต์จากสิ่งรอบตัวที่เกิดระหว่างเราพัก เช่น เพลงที่ฟัง โฆษณาที่ดู สื่อที่เห็น ซึ่งของพวกนี้มันตีกลับมาเป็นประสบการณ์ได้หมด ต่อยอดเอาไปทำเป็นคอนเทนต์ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมคอนเทนต์ต่างๆ ในช่อง Haiseoul Channel ไม่ได้เป็นคอนเทนต์ตามกระแสสักเท่าไหร่ แต่เป็นคอนเทนต์ที่เกิดมาจากประสบการณ์ส่วนตัว และไอเดียที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
การพูดคุยกับคุณฮายครั้งนี้เราคุยกันแบบออนไลน์ เพราะคุณฮายยังคงทำงาน และสร้างสรรค์คอนเทนต์ส่งตรงมาจากจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งต่างจากอินฟลูหลายๆ คนที่อยู่ต่างจังหวัด พอเริ่มมีชื่อเสียงมีผู้ติดตามจะย้ายมาที่กรุงเทพฯ
“พี่ๆ ทุกคนในวงการก็แนะนำว่าควรมาอยู่กรุงเทพฯ นะ ทุกคนพูดแบบนี้หมดเลย จริงๆ เราก็อยากมาอยู่ค่ะ เราเคยอยู่กรุงเทพฯ ช่วงนึงแล้วตอนฝึกงาน แต่เรารู้สึกว่าสุขภาพจิตเสียมากๆ ฮายเบื่อกับอาการรถติด เราต้องเผื่อเวลาเยอะเกินไปในการไปที่ๆ นึง ทุกวันนี้ฮายเพิ่งทำสตูดิโอที่บ้านเสร็จ อยู่ที่นี่มันก็โอเค และโชคดีที่งานส่วนมากของฮายเป็นงานกรีนสกรีน ตอนนี้อยู่อุบลฯ มีความสุขดีค่ะ 🙂”
แสดงว่าคุณฮายมี Safe Zone ของตัวเอง ?
“มีค่ะ” หลายๆ คนอาจจะตอบว่า Safe Zone คือครอบครัว แต่สำหรับคุณฮาย Safe Zone ที่ดีคือ ‘ตัวเอง’
“เวลาฮายเหนื่อยๆ ถ้าอยากทำก็จะทำ อยากไม่อยากทำก็จะขี้เกียจเลย ถ้าวันไหนนอยๆ รู้สึกไม่ดีก็จะอยู่กับตัวเอง”
คุณฮายเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองค่อนข้างสูง แต่หลังจากที่มีแฟนเข้ามาเติมเต็มในชีวิต ก็เหมือนกับสร้าง Safe Zone ใหม่ให้คุณฮายเช่นกัน “อันนี้ขอให้เครดิตเค้าหน่อย เค้าเป็นตัวยืนหนึ่งในเรื่องของการซัพพอร์ต และให้กำลังใจ แม้ว่าหลายๆ อย่างเค้าจะพูดอวยเราไปบ้าง แต่มัน fullfil ความรู้สึกเรา”
เราชวนคุณฮายย้อนความหลังกลับไปเมื่อปี 2020 กัน ตอนนั้นคุณฮายเคยได้รางวัล ‘ดาวรุ่ง’ ในวงการ (Best Rising Star on Tiktok) จากเวที Thailand Influencer Awards by Tellscore ซึ่งหากดูจากชื่อแล้วอาจไม่ได้สะท้อนตัวตนของคุณฮายเท่าไหร่ ถ้าสมมติว่าวันนี้
มีโอกาสเปลี่ยนชื่อรางวัลได้จะเปลี่ยนเป็นอะไรดี ?
“ดาวเต้นโควิดซีซั่น 1”
“เพราะว่าฮายมาพร้อมกับซีซั่น 1 เลย เป็นตัวเปิด จริงๆ ตอนแรกเราก็ไม่มั่นใจ แต่พอลงคลิปย้อนรำลึกซุปเปอร์วาเลนไทน์ ก็มีแต่คนมาเม้นว่า รู้จักเราตั้งแต่โควิดซีซัน 1 ก็เลยรู้สึกว่า ในเรื่องที่มันไม่ดีก็ยังมีเรื่องดีอยู่” “ฮายก็มีความสุข เวลามีคนมาบอกว่าดูคลิปแล้วสนุกมาก เราก็ดีใจ”
“เพราะว่าฮายมาพร้อมกับซีซั่น 1 เลย เป็นตัวเปิด จริงๆ ตอนแรกเราก็ไม่มั่นใจ แต่พอลงคลิปย้อนรำลึกซุปเปอร์วาเลนไทน์ ก็มีแต่คนมาเม้นว่า รู้จักเราตั้งแต่โควิดซีซัน 1 ก็เลยรู้สึกว่า ในเรื่องที่มันไม่ดีก็ยังมีเรื่องดีอยู่” “ฮายก็มีความสุข เวลามีคนมาบอกว่าดูคลิปแล้วสนุกมาก เราก็ดีใจ”
ถ้าวันนี้ยังเป็นดาวรุ่งอยู่ คิดว่าจะพุ่งไปถึงไหน?
“ก็คิดว่าจะพุ่งทำงานที่ตัวเองรักตัวเองชอบต่อไป สร้างความสุขต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้แรงเราจะหมดแล้ว ข้อเข่าก็ไม่ค่อยดี สู้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ (หัวเราะ)”
จริงๆ แล้วฮายไม่ได้เป็นคนเดียวที่ทำคลิปแยกร่าง แต่เหตุผลที่ทำให้เธอยังคงเป็นดาวรุ่งมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ เพราะ ‘ความอดทน และความรักในสิ่งที่ทำ’
“เอาจริงๆ นะ เหนื่อย แค่เป็นตัวเองคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องมาจำตัวละครอื่นว่าพูดอะไร ต้องมาจำร่างแยกอีก” คุณฮายเริ่มเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เธอเคยเพื่อนที่ทำคลิปแนวแยกร่างให้เราฟัง ซึ่งคุณฮายก็ยอมรับว่าการทำคลิปแนวนี้มันเหนื่อยจริงๆ
“แต่เราชอบ เรามี passion ในการทำตรงนี้ อย่างล่าสุดทำคลิปเต้นของ 4EVE ไป วงนั้นมี 7 คน ขนาดว่าเป็นเพลงช้า เรายังเหนื่อยเลย ตอนนั้นเต้นไปถึงคนที่ 5 เรารู้สึกเหนื่อย เลยคุยกับตัวเองว่าเอายังไงดี พอมั้ย ไหวมั้ย จะเต้นมั้ย สู้มั้ย”
“หลังจากเต้นจบเข่าเราลงไปทรุดกับพื้นเลย แต่ก็นับถือใจเรานะที่ยังรักอยู่ ตอนแรกคิดว่าตัวเองแค่อยากเต้นอยากทำ แต่จริงๆ แล้วใจรัก”
“เรายังมาดูเบื้องหลังของตัวเอง (คุณฮายเป็นคนตัดต่อเองทั้งหมด) หลังกล้องก่อนถ่ายเราก็บ่นกับตัวเอง พูดกับตัวเองในกล้องว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ เหนื่อยแล้ว แต่พอมาเห็นผลงานก็คิดว่าดีแล้วที่เราไม่หยุดกลางทาง”
“เราบอกกับตัวเองว่า เราอยากทำเองไม่ใช่เหรอ ถ้าเริ่มแล้วจะหยุดทำไม ไม่มีใครสั่งเลยนะ”