เทรนเนอร์สร้างแรงบันดาลใจ และความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ติดตาม
ดาว Fit Kab Dao เทรนเนอร์สร้างแรงบันดาลใจ และความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ติดตาม
Introduction
- จุดเริ่มต้นของอินฟลูฯ สายฟิตเนส ด้วยความชอบออกกำลังกายมานานของตนเอง
- การออกกำลังกายจะช่วยให้เราเป็นเราในเวอร์ชันใหม่ที่ดีกว่าเดิม
- หตุการณ์ที่หล่อหลอมให้โค้ชดาวเป็นคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกาย และจิตใจจนถึงทุกวันนี้
- สร้างแรงบันดาลใจ และความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ติดตาม
‘ชาเลนจ์เบิร์นไขมัน’ ‘ปั้นหุ่นแซ่บ’ ‘เซลฟี่เหงื่อ’
กิจกรรมที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อยๆ ในเพจ Fit Kab Dao ที่มี ‘โค้ชดาว วิภา อาทิตย์อุไร ’ คอยชวนทุกคนมาออกกำลังกายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ดีขึ้นยิ่งกว่า
แต่กว่าที่โค้ชดาว Fit Kab Dao จะกลายมาเป็นหนึ่งในเทรนเนอร์ที่เป็นแรงบันดาลใจ และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ติดตามนับล้าน เส้นทางชีวิตของคุณดาวเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองตั้งแต่อยู่ที่ศูนย์เด็กกำพร้า 9Conversation.co จะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าของรางวัลอินฟลูเอนเซอร์ยอดเยี่ยมจากเวที Thailand Influencer Awards 2022 กันให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์ครั้งนี้
‘จุดเริ่มต้น
อินฟลูฯ สายฟิตเนส’
“ย้อนความไปประมาณ 7 ปีที่แล้วตอนที่ดาวออกกำลังกายใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่มี Health Influencer หรือ ที่เทรนเนอร์ทำแบบออนไลน์ส่วนใหญ่จะอยู่แค่ที่ยิม ช่วงนั้นเราอยากออกกำลังกาย แต่เราชอบทำที่บ้าน และเราอายที่จะไปออกกำลังกายที่ยิม เพราะว่ามีผู้ชายเยอะ แล้วเราก็ทำท่าแต่ละท่าไม่เก่งด้วย ก็เลยทำที่บ้าน”
คุณดาวเริ่มต้นการออกกำลังกายโดยศึกษาจากเทรนเนอร์ต่างประเทศ ที่มีการสอนท่าออกกำลังกายที่ทำที่บ้านได้ หลังจากนั้นเธอไปเรียนเพิ่มเติมให้เป็นเทรนเนอร์ ด้วยความที่เธอออกกำลังกายมานาน ก็เริ่มรู้สึกว่าท่าเบสิกมันน่าเบื่อ ก็เลยปรับท่าให้มันสนุกมากขึ้น ทำให้คนทำตามได้ง่ายๆ
อยากหุ่นดี แต่หลับตาลงแต่ละทีเห็นแต่หมูกะทะ
การออกกำลังกายให้เห็นผลก็ต้องควบคู่มากับอาหารการกิน แต่ของอร่อยๆ ก็มักจะเป็นสิ่งล่อใจให้เราหลุดเรื่องการคุมอาหารอยู่เรื่อยไป เหมือนกับว่าร่างกายต้องการหมูกะทะตลอดเวลา เจอแบบนี้คุณดาวรับมืออย่างไร ?
“คนชอบคิดว่าเราเป็นเทรนเนอร์ เราจะไม่หลุดเลย เราจะกินคลีน 100% แต่จริงๆ เราก็กินปกติ แต่เราเลือกทานมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนเวลาไปกินชาบู เราจะกินแต่หมูสามชั้น กินผักน้อย แต่หลังๆ เราเริ่มที่จะเลี่ยงไขมัน และกินพวกผักมากขึ้น เราก็ยังมีสังคมที่ยังไปกินชาบูได้ ไม่ต้องเลิกค่ะ เราแค่เลือกทาน”
พอทำ challenge แล้วมันสนุก มีแรงบันดาลใจจากคนที่เห็นผลด้วย
เราชวนคุณดาวคุยต่อเกี่ยวกับเรื่องของแรงจูงใจในการออกกำลังกาย เพราะบางคนก็ล้มเลิกก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ Fit Kab Dao มีวิธีดึงคนเหล่านั้นกลับมาสู่เส้นทางการออกกำลังกายอีกครั้ง
“เราทำ challenge ค่ะ เช่น ต้นเดือนนี้วันที่ 3 เพจเรามาออกกำลังกายด้วยกัน ถ้าเค้าหลุดไป เราก็ทำ challenge ที่มันล่อตาล่อใจนิดนึง อย่างเช่น ออกกำลังกายวันละ 10 นาที เริ่มต้นวันละแค่ 10 นาทีก่อน ถ้าเราเริ่มที่ 30 นาทีเลย เค้าจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยาก ดาวพยายามจะทำเป็นคอมมูนิตี้ พยายามเซ็ตวัน และทำไปด้วยกัน ทำง่ายๆ ไม่ต้องยาก”
“เชื่อเถอะค่ะ พอเราดึงตัวเองเข้ามาออกกำลังกาย 10 นาทีเราจะรู้สึกว่า มันยังไหว เอาอีกรอบนึง มันจะยากแค่ตอนที่เราดึงตัวเองออกมา บางคนเสพติดการออกกำลังกาย วันไหนไม่ได้ออกคือทนไม่ได้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่ใช่คนแบบนี้ พอมันทำ challenge แล้วมันสนุก แล้วมันมีแรงบันดาลใจจากคนที่เห็นผลด้วย”
การออกกำลังกายแบบจับกลุ่มรวมกันเป็นคอมมูนิตี้ จะช่วยสร้างความกดดันเล็กๆ ให้กับคนอื่นในกลุ่มด้วย เหมือนกับว่าคนอื่นเริ่มออกกำลังกายแล้ว ทำไมเราถึงจะไม่ทำตาม เรียกว่าเป็นความกดดันเล็กๆ ที่ดี ยิ่งคอมมูนิตี้ใหญ่ขึ้นก็ย่อมมีคนจากหลากหลายกลุ่มเข้ามาจอย โดยคนส่วนมากคนที่มาเทรนกับ Fit Kab Dao จะเป็นผู้หญิงประมาณ 90% ส่วนอีก 10% เป็นผู้ชาย ซึ่งโดยปกติแล้วเราอาจไม่ค่อยได้เห็นผู้ชายม
“เราก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมผู้ชายถึงมาเทรนกับเรา ก็ได้คำตอบว่า เค้าชอบท่าออกกำลังกายของเรา ด้วยความที่เค้าไม่อยากไปยิม อยากออกกำลังกายที่บ้าน อยากให้เราดูแลเรื่องการกินให้ อยากลดไขมัน เพราะผู้ชายที่มาเทรนกับเราส่วนมากอยากลดไขมัน ไม่ได้อยากเพิ่มกล้ามเนื้อใหญ่ๆ อีกสิ่งนึงก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะถูกแฟนลากเข้ามาออกกำลังกายด้วย ก็เลยออกกำลังกายด้วยกันไปเลย”
หลายๆ คนที่เพิ่งจะเริ่มออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายมาสักพักแล้ว อาจเคยโดนเพื่อนๆ ทักว่า ‘โห จะฟิตไปไหนเนี่ย’ ซึ่งแม้จะเป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วอาจไม่มีผิดมีภัย แต่บางครั้งก็อาจทำให้จิตใจเราบั่นทอนได้เหมือนกัน ซึ่งคุณดาวให้คำแนะนำว่าให้มองว่านี่คือสิ่งที่เราตัดสินใจ เรากำลังจะเป็นเราในเวอร์ชันใหม่ที่ดีกว่าเดิม
“ตอนแรกๆ ที่เพื่อนเรายังไม่ชินกับ New Version ของเรา ก็อาจจะมีแซวๆ บ้าง แต่พอทำใจได้แล้ว เค้าก็ไม่มีปฏิกริยาอะไร ตอนแรกๆ ยอมรับว่ามีคนชอบพูดอะไรประมาณนี้ อย่างเช่น เวลาเราบอกว่าขอไปออกกำลังกายก่อนนะ เค้าก็อาจรู้สึกไม่ค่อยโอเค อยากไปกินข้าวกับเรา เค้าก็เลยอาจจะพูดแบบไม่ได้คิด บางคนก็อาจแซวเล่น แต่ก็รู้สึกอยู่นะ วิธีชนะก็คือ ใช้เวลาค่ะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเราตัดสินใจแล้วว่า นี่คือ New Version ของเรานะ นี่คือเวอร์ชันใหม่ของเรานะ เดี๋ยวเพื่อนก็เข้าใจเราเอง”
คนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน มักจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการออกกำลังกาย ในมุมมองของคุณดาวคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร ?
“การออกำลังกายตอนเช้า คุณต้องแพลน คุณต้องทำ Time Boxing เช่น ตอนเช้าเราต้องไปออกกำลังกาย เรามี habbit ที่เราจะทำทุกวัน ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า เพราะเราจะเป็นคนที่ Productive มากๆ เรายังได้เรื่องการจัดลำดับความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ถ้าสมมติสุขภาพไม่ดี เราก็คิดอะไรไม่ได้ การออกกำลังกายตอนเช้าทำให้เราสดชื่นมากเลย ตอนกลางวัน ตอนเย็นเราจะรู้สึกปลอดโปร่งไปหมด การออกกำลังกายตอนเย็นเราอาจมีข้ออ้างเยอะ เพราะเราทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน แล้วต้องมาออกกำลังกายอีก ก็อาจรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรอีก”
อย่างที่เราเกริ่นไปตั้งแต่ต้นว่า ชีวิตของคุณดาวทุกวันนี้เริ่มต้นมาจากการเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งในตอนนั้นคุณดาวอยู่ในศูนย์เด็กกำพร้า แต่เหตุการณ์ในวันนั้นก็เป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้โค้ชดาวเป็นคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกาย และจิตใจจนถึงทุกวันนี้
“ตอน 8 ขวบดาวไปอยู่ที่ศูนย์เด็กกำพร้า ความโกรธ และความเสียใจมันพุ่ง เรารู้สึกโกรธ เรารู้สึกโทษทุกคน ทำไมเราต้องมาอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครอยากได้เราขนาดนั้นเลยเหรอ ? ทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี่ เราโกรธมาก โกรธทุกคน เราไม่เคยอยู่ไกลบ้านเลย อยู่กับยายมาโดยตลอด อยู่ดีๆ ยายก็ให้เรากับคนแปลกหน้า แบบที่เราไม่รู้จักมากก่อน พอเรามองย้อนกลับไปเราก็รู้สึกว่า เราเป็นคนที่เข้มแข็งในระดับนึงนะ”
“ถ้าเราย้อนกลับไปได้ เราอยากบอกตัวเองว่าเราเก่งมากเลยนะ ที่เราชนะใจตัวเอง เรายอมรับความจริงว่านี่คือสภาพของเราตอนนี้ เราจะไม่โทษใคร เราร้องไห้พอละ เราถึงเวลาแล้วที่จะบอกว่าทำใจแล้วยอมรับมัน แล้วอยู่กับสภาพตรงนั้นให้ได้ แล้วเราก็พยายาม ไม่เคยหยุด เราไม่เคยมองตัวเองด้อยในทุกเรื่อง ถ้าเราพยายามเราสามารถทำอะไรก็ได้ แล้วเราก็พยายามมาอย่างหนักตลอดเวลา 10 กว่าปีที่อยู่ในนั้น กับความลำบากหลายๆ ด้าน เราอาจจะไม่ได้มีโอกาสเท่าเด็กอื่นๆ แต่ว่าสุดท้ายแล้วด้วยความพยายามของเรา และคนที่ยื่นมือมาช่วยเรา มันก็ทำให้เราเป็นคนๆ นี้ ในวันนี้ที่เข้มแข็ง แล้วก็เป็นคนที่ไม่กลัวอะไรเลย สามารถพุ่งชนได้ทุกอย่าง เพราะเราก็ผ่านความลำบากมาเยอะ แล้วเราก็คิดว่าไม่มีอะไรเสียแล้ว
“ถ้าเราต้องกลับไปเป็นศูนย์หรือติดลบก็ตาม เราเคยอยู่จุดนั้นมาก่อน เราไม่ได้กลัวในความเสี่ยงอะไรต่างๆ เป็นคนที่ออกจาก Comfort Zone ตัวเองค่อนข้างง่าย อยากลองอะไรก็ลอง”
“ขอบคุณตัวเองที่ยอมรับสภาพของตัวเอง และรู้ว่าเราต้องสู้แล้ว ถ้าเราไม่สู้เราจะอยู่ในความกลัว เราจะคิดว่าตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ได้เราก็จะไม่ทำ อยู่ในจุดแบบนั้นตลอดชีวิต แต่เราเลือกที่จะเปลี่ยน ถ้าเราไม่ผ่านจุดนั้น เราไม่น่าจะเป็นคนที่กล้า เป็นคนที่ทำ พร้อมพุ่งชน พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา อยากขอบคุณตัวเองที่สุด”
ในวันนี้คุณดาวอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพตัวเอง เธอเป็นเทรนเนอร์สร้างแรงบันดาลใจ และความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ติดตาม สร้างแพลตฟอร์มการออกกำลังกายที่ให้คนเข้ามาใช้งานได้อย่างสะดวก ไปจนถึงสร้างบริษัท ฟิตกับดาว แต่คุณดาวก็ยังไม่เคยลืมที่มาที่ไปของตัวเอง ยังคงคอยสร้างแรงบันดาลใจ และคอยซัพพอร์ตน้องๆ ที่ศูนย์เด็กกำพร้าอยู่เสมอ
“เราอาจไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก แต่เราก็มาไกลจากจุดที่เราเคยอยู่มาก่อน ถ้าเราไม่มีคนพวกนี้คอยสนับสนุนเรา คอยซัพพอร์ตเรา เราก็คงไม่มีวันนี้ ดาวก็ยังคงกลับไปตลอด ซื้อผ้าห่มให้ในช่วงฤดูหนาว ไปเลี้ยงข้าว เลี้ยงหมูกระทะ ซื้อรองเท้าใหม่ หรืออะไรที่เขาขาด เช่น โปรตีน เด็กไม่ค่อยได้กิน เราจำได้เพราะตอนที่เราอยู่ในศูนย์ เราไม่ได้กินพวกไก่ หรือหมู เน้นแต่ผัก รู้สึกว่าตัวเองขาดสารอาหาร”
“ย้อนกลับไปเราไม่ค่อยได้กินของดีเลย ก็เลยอยากให้เด็กๆ ได้กินของที่ดี ถ้าเรามีโอกาสเราก็จะกลับไปเสมอ เพราะเขาก็มีบุญคุณกับเรา”
นอกจากเธอจะซัพพอร์ตเรื่องอาหารการกิน เครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็น และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ แล้ว เธอยังสร้างโอกาสและอนาคตให้กับรุ่นน้อง รวมถึงเพื่อนๆ ในศูนย์เด็กกำพร้าอีกด้วย
“จริงๆ ทีมเรา 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันหมดเลย โตมาในศูนย์เด็กกำพร้า เรายังรับเด็กใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ที่อยู่ในศูนย์เด็ก เค้าอาจจะยังไม่มีสกิลที่จะไปโลกภายนอก ก็มาฝึกงานกับเราก่อน เราก็สอนงานให้ ถ้าเค้าได้สกิลที่เกี่ยวข้องกับออนไลน์ไป เค้าก็สามารถทำเงินได้ตลอดชีวิต”
หลังจากพูดจบ เราเห็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของคุณดาว เผยให้เห็นความสุขของเธอในตอนนี้ที่เกิดมาจากการช่วยเหลือคนให้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาโดยตลอด
“ความสุขของดาวตอนนี้มีสองอย่าง อย่างแรกคือ คนที่เราช่วยให้เค้าเกิดความเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงเป็นงานที่เรารักมาก เพราะมันเป็น impact ที่แท้ทรู มันไม่ใช่แค่ออกกำลังกายแล้วมีคนมาไลค์ มาแชร์ ที่เราทำตอนนี้มันคือการส่งผลลัพธ์ไปให้กับคนจริงๆ บางคนเค้าน้ำหนักเยอะมากก่อนคลอด หลังคลอดพอเค้ามาอยู่กับเรา จากน้ำหนัก 75 กิโล เหลือ 49 กิโล ลดไป 35 กิโล เปลี่ยนจากไซส์ XXL เป็น S
“ดาวรู้สึกว่า สิ่งที่ดาวกำลังทำอยู่มันคือสิ่งที่ทำให้เห็นผลลัพธ์จริงๆ มันไม่ใช่แค่การแนะนำออกกำลังกาย มันทำให้คนเปลี่ยนแปลงได้ เรารู้สึกมีความสุขนะที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง มันคือความสุขที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เค้าได้เจอเวอร์ชันที่ดีขึ้นของตัวเอง ทุกๆ ครั้งที่มาออกกำลังกายกับเรา มาทำ challenge กับเรา
“ความสุขอีกอย่างคือทีมงานของเราที่มาจากศูนย์เด็กกำพร้า โตมาด้วยกัน เรารู้ว่าเค้าไม่มีเหมือนเรามาก่อน ตอนนี้เราสามารถซัพพอร์ตเค้าได้ เราสามารถช่วยเค้าได้ เราเติบโตไปด้วยกัน เราพยายามสร้างบริษัทฟิตกับดาว ให้เป็นบริษัทที่ Amazing มากที่สุด ให้สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้มากที่สุด นี่คือเป้าหมายเดียวของเรา”