คุณเบนซ์ The Gaijin Trip แบกเป้เที่ยวคนเดียว การเดินทางค้นหาสิ่งใหม่ในชีวิต

เริ่มต้นให้คุณเบนซ์ได้แนะนำตัวเองให้เราได้รู้จักกัน

“สวัสดีครับ ผมเบนซ์ คนส่วนใหญ่สมัยนี้จะเรียกผมว่า เบนซ์ Gaijin ครับ”

บทสนาเริ่มขึ้นจากการแนะนำสิ่งที่คุณเบนซ์กำลังทำอยู่อย่างช่อง Youtube ที่หลายคนรู้จัก ที่มีแนวการทำวิดีโอที่สไตล์เรียบง่าย ไม่หวือหวา การท่องเที่ยวคนเดียว บวกกับเสียงเพลงเหงาๆ เสียงบรรยาย เคราบรรยากาศ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากช่องท่องเที่ยวอื่น ที่อาจจะทำให้ผู้คนจดจำเอกลักษณ์นี้ได้ดี

เมื่อถึงทางตัน จึงอยากทำอะไรที่แตกต่าง

เมื่อชีวิตการทำงานเดินทางมาถึงทางตัน ทำให้คุณเบนซ์ต้องการอยากออกเดินทางท่องเที่ยวไปตามหาสิ่งที่มากกว่าชีวิตจากเดิมที่เป็นอยู่ เขาจึงเริ่มค้นหาข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวผ่านการดู Youtube วิดีโอท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่ง ณ ตอนนั้นวิดีโอท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีความเฮฮา เน้นใส่เอฟเฟคเสียงประกอบที่ขัดกับความสไตล์ที่เขาชอบ เขาจึงลองหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่น สิ่งขุมทรัพย์ที่เขาได้เจอนั้นคือ ‘พันทิป’

เสน่ห์ของพันทิปอยู่ตรงที่ผู้คนเข้ามาแชร์เรื่องราวการท่องเที่ยวของตนเองผ่านการเขียนที่แต่ละคนมีการพรรณาถึงสถานที่นั้นๆ ให้เราจินตนาการ ให้ผู้อ่านได้คล้อยตามไป และดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่คุณเบนซ์ตามหา เขาเหมือนได้เสน่ห์ดึงดูดหลุดเข้าไปเที่ยวตามสถานที่ที่ผู้คนได้เล่าถึง จึงเป็นจุดประกายในคุณเบนซ์เริ่มเจอแนวทางของตัวเอง ประกอบกับที่คุณเบนซ์เองได้ผ่านการทำงานแบบ Production จึงเป็นคนที่ชอบพกกล้องติดตัวไปเมื่อต้องเดินทาง ถึงแม้ตอนนั้นจะรู้สึกดันกับงานที่ทำอยู่ เพียงแต่อยากบันทึกเรื่องราวการท่องเที่ยวเป็นไดอารี่ไว้ดูเอง และนี้คือจุดเริ่มต้นของช่อง The Gaijin Trip จึงได้เกิดขึ้น

“อยากนำเสนอเรื่องราวของตัวเองในรูปแบบที่เราหาดูไม่ได้…ถ้าวันหนึ่งมีคนที่เข้ามาดู แล้วเป็นคนที่หาสิ่งเดียวกับเราเขาจะได้เจอเราเหมือนกับเราเป็นมุมวิเศษ”

เมื่อย้อนกลับตอนที่คุณเบนซ์ยังทำงานฟรีแลนซ์ คุณเบนซ์เล่าว่าตอนนั้นเมื่อทำงานได้รับเงินมา ก็ใช้เงินไปกับการแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่ไปเที่ยวแล้วไม่รู้สึกเหมือนเมื่อก่อน รู้สึกเบื่อ จึงได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า

“ถ้าให้มีชีวิตอย่างนี้ต่อไป ผมไม่อาจจะอยู่บนโลกไปนี้ได้”

ซึ่งคล้ายกับอาการหมดไฟในการทำงานที่มักจะเกิดขึ้นกับพนักงานประจำออฟฟิศ คุณเบนซ์ก็เช่นกัน ถึงแม้เขาจะทำงานฟรีแลนซ์ที่สามารถเลือกเองได้ก็ตาม จึงเลือกที่จะลองทำสิ่งเขาเองไม่เคยคิดว่าจะชอบมันเลย นั้นคือ ‘การออกเดินทางไปต่างจังหวัด’ จากเดิมที่เหล้า เบียร์ และเพื่อนฝูงที่เป็น Safe Zone ของคุณเบนซ์มาตลอด ถึงจุดหนึ่งเขาอยากจึงลองทำสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม โดยที่ไม่สนใจว่าสิ่งที่ลองทำนั้นจะชอบหรือไม่ชอบ เพราะสุดท้ายการที่จะรู้คำตอบนั้นได้ เราต้องลองทำ

‘Gaijin’ หมายถึง คนนอก

“การได้รู้จักกับใครในฐานะเป็นคนนอก เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้วสำหรับผม”

คุณเบนซ์บอกว่าหลายๆ ครั้งที่เรารู้จักคนๆ หนึ่งมากเกินไป บางครั้งเราอาจจะตัดสินใจเขามากกว่าเดิมโดยที่ไม่รู้ตัว แต่กลับกันถ้าเราเป็นคนนอกที่เริ่มทำความรู้จักกับใครสักคนใหม่ มักจะมีเรื่องราวที่ให้เราได้รู้สึกตื่นเต้นตลอดบทสนทนา ไม่ต้องกังวลถึงอดีตที่ผ่านมาของเขา เพียงแค่โฟกัสกับบทสนา สนุกไปกับมุมมองใหม่ที่แตกต่างไปจากเรา เพราะคุณเบนซ์มองว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องราวของคนๆ นั้น ซึ่งจากที่คุณเบนซ์ได้เล่าให้ฟัง เราอาจจะมองว่าการที่ไ้ด้ไปท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ พบเจอผู้คนใหม่ๆ ที่ไม่รู้จัก เราเป็นดั่งคนนอกที่ได้พบกับคนวงใน เป็นเรื่องราวสนุกที่เกิดขึ้นได้ในทุกครั้งที่ท่องเที่ยว

ผู้มีอิทธิพลทางความคิดกับคุณเบนซ์ The Gaijin Trip

ย้อนกลับไปในวัยเด็กคุณเบนซ์บอกว่าคนที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อเขาก็คือ คุณแม่ ในเรื่องความขยัน แล้วทำให้ยึดมั่นในมุมนี้มาตลอด แต่เมื่อเติบโตขึ้นแน่นอนว่าความคิดของเราต้องมีมุมมองที่ต่างจากแม่ไป ทั้งในเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต จึงเป็นแค่จุดหนึ่งที่คุณแม่มีอิทธิพลทางความคิดกับเขา

คุณเบนซ์เป็นบุคคลที่อยู่ในสายงาน Production มาจึงมีความชอบในด้านนี้ ส่วนหนึ่งที่มีอิทธิผลต่อเขาคือ คุณสิงห์ วรรณสิงห์ เป็นอินฟลูฯ ที่อยู่ในสายท่องเที่ยวและไปเที่ยวคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งคุณเบนซ์ได้มีโอกาสเข้าไปรับชมคอนเทนต์ที่คุณสิงห์ (สิงห์ วรรณสิงห์) นำกล้องพกติดตัวไปถ่ายการท่องเที่ยวคนเดียว ทำให้คุณเบนซ์รู้สึกชื่นชอบ แต่ ณ ตอนนั้นเป็นความชื่นชอบในการทำด้าน Production ที่ทำให้เขาสนใจ จนเมื่อมีโอกาสได้ลองออกเดินทางท่องเที่ยว คุณเบนซ์จึงได้รู้ตัวว่าการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่เขาชอบครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งหนึ่งนั้นคือการได้เก็บเรื่องราวผ่านเลนส์กล้องที่เขาพกติดตัวไปด้วยนั่นเอง

ในทางกลับกัน
‘ถ้าถามว่าคุณเบนซ์คิดว่าตัวเองมีอิทธิพลทางความคิดกับใครบ้าง?‘

คุณเบนซ์บอกกับเราว่า มีหลายคนที่ได้ส่งข้อความเข้ามาหาเขา ในเชิงขอบคุณที่คำพูดของเขาเหมือนเป็นเปิดโลกในกับคนอื่น เพราะบางครั้งคอนเทนต์ของคุณเบนซ์จะมีคำพูดเชิงปรัญชาแฝงอยู่ในวิดีโอด้วย แต่คุณเบนซ์ยังบอกต่อว่า ถ้าเลือกได้จริงๆ ไม่ได้อยากให้คนมองเขาเป็นแบบนั้น ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเขามีอิทธิผลต่อคนอื่น เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนแบกรับอะไรไว้บางอย่าง และคอนเทนต์ที่เขาทำขึ้นมานั้น ก็ล้วนทำขึ้นเพื่อตัวของเขา ไม่ได้เป็นการทำเพื่อคนอื่น แค่เพียงเข้ามาชมคอนเทนต์ที่เขาทำขึ้น ก็ขอบคุณเป็นอย่างมากแล้ว ทุกวันนี้จึงทำให้คุณเบนซ์มีความตระหนักในการทำคอนเทนต์มากขึ้นตามไปด้วย

จากบทสัมภาษณ์ทั้งหมดนี้ทำให้เราได้เข้าใจถึงมุมมองของคุณเบนซ์ The Gaijin Trip มากขึ้น ได้สัมผัสถึงตัวตนที่แฝงอยู่ในคำตอบของเขา ขอบคุณที่ทำให้เข้าใจในความคิดที่แตกต่าง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะสามารถให้อะไรบางอย่างกับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย สำหรับใครที่อยากติดตามคุณเบนซ์

สามารถติดตามได้ที่ Youtube Channel : The Gaijin Trip แบกเป้เที่ยวคนเดียว
และ Facebook Fanpage : The Gaijin Trip แบกเป้เที่ยวคนเดียว