ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลใบหยก ที่ในวันนี้ขอสวมหมวกเป็น YouTuber
เบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลใบหยก ที่ในวันนี้ขอสวมหมวกเป็น YouTuber
Introduction
- ในเจเนอเรชั่นก่อนๆ ตระกูลใบหยก ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาที่ดินเป็นโรงแรม และห้างสรรพสินค้า
- เบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยกเจเนอเรชั่นที่ 4 ดูแลทั้งธุรกิจโรงแรม และเริ่มทำธุรกิจร้านอาหารเป็นของตัวเอง จากการนำแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นเข้ามาเปิดในประเทศไทย
- ผันตัวเข้าสู่วงการ YouTuber บันทึกความทรงจำไว้ให้ลูกๆ ดูในอนาคต ว่าคุณเบียร์ในฐานะพ่อ ใช้ชีวิต และทำงานอย่างไร
- หนีไม่พ้นดราม่า พื้นฐานทางบ้านดีจึงประสบความสำเร็จ แต่คุณเบียร์ย้ำว่า ภาระ และปัญหาในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตัวเขาเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาได้
เมื่อพูดถึงตระกูล ‘ใบหยก’ เชื่อว่าใครๆ ก็คงนึกถึงตึกใบหยก 2 อาคารที่เคยสูงที่สุดในประเทศ แม้ในวันนี้จะถูกล้มแชมป์ในเรื่องความสูง แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าชื่อของตึกใบหยกได้กลายเป็นตำนานของประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อย
ในวันนี้ กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจได้เปลี่ยนผ่านมาสู่ทายาทในรุ่นที่ 4 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่าวิธีคิดในการทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่มากฝีมือย่อมแตกต่าง และต้องการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
เบียร์ ใบหยก’ ในบทบาทนักธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร
ในบทความนี้ 9 Conversations จะพาผู้อ่านไปพูดคุยกับ คุณเบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลใบหยก ที่ขอสานต่อความสำเร็จด้วยการสวมบทบาทเป็นทั้งนักธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารชื่อดังที่หลายคนคุ้นหูคุ้นตา รวมถึงการเป็น YouTuber เจ้าของช่อง BeerBaiyoke การันตีด้วยรางวัลบนเวที Thailand Influencer Awards 2021 และผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน
ทีมงาน 9 Conversations ชวนคุณเบียร์พูดคุยถึงธุรกิจที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ ภายใต้บรรยากาศบูทีคของโรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ หนึ่งในโรงแรมโลเคชั่นดีย่านหัวช้างที่คุณเบียร์บริหารอยู่
ก่อนที่คุณเบียร์จะเล่าถึงธุรกิจที่ตัวเองทำ เขาขอย้อนกลับไปที่การทำธุรกิจของตระกูลใบหยกในช่วงเจเนอเรชั่นก่อนๆ ว่าเป็นการทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จนในปัจจุบัน ตระกูลใบหยกมีโรงแรมในเครือมากกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ
เส้นทางการทำธุรกิจของคุณเบียร์เริ่มฉีกแนวจากเดิม ด้วยการก้าวเข้าสู่ธุรกิจร้านอาหารเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ด้วยความคิดที่ว่า “ทุกคนต้องทานข้าว อาหารเป็นปัจจัย 4 ทำแล้วขายได้แน่ๆ ในทุกยุคทุกสมัย”
“ผมเริ่มจากการซื้อแฟรนไชส์ร้านเนื้อย่างจากประเทศญี่ปุ่น มาเปิดที่ประเทศไทย ซึ่งในตอนนั้นเน้นขายคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทย ด้วยรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่ดัดแปลง”
DNA ความชื่นชอบเรื่องอาหารของคุณเบียร์ เรียกได้ว่าเกิดขึ้นโดยมีพื้นฐานมาจากโรงแรมใบหยก ที่มีจุดเด่นด้านอาหาร บุฟเฟ่ต์ และการจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเบียร์คลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก
รถยนต์ คือจุดเริ่มต้นสู่การเป็น YouTuber ไอดอลสร้างแรงบันดาลใจ
อีกด้านหนึ่งของชีวิต นอกจากคุณเบียร์จะเป็นนักธุรกิจมากความสามารถ ที่ทำหน้าที่สานต่อธุรกิจของครอบครัวแล้ว คุณเบียร์ยังเป็น YouTuber ชื่อดัง ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะติดตามคุณเบียร์จากบทบาทนี้
“ผมเป็นคนชอบรถยนต์มาก จนรู้สึกว่าอยากเก็บภาพรถของตัวเอง เลยให้ตากล้องซึ่งเป็นรุ่นน้องที่สนิทมาถ่ายให้” และรุ่นน้องคนนี้นี่เองที่เป็นคนเสนอให้คุณเบียร์เข้าไปยืนถ่ายรูปคู่กับรถยนต์ของตัวเอง
“จริงๆ ผมเป็นคนที่ธรรมชาติมากๆ เข้าไปยืนเก๊กบ้าง ทำท่าตลกๆ บ้าง ไม่มีฟอร์มอะไรเลย เลยคิดว่าน่าจะถ่ายเป็นคลิปวิดีโอเก็บไว้ดีกว่า ผมเลยไปจ้างตากล้องมาถ่ายคลิปรถยนต์ตอนวิ่ง ถ่ายไลฟ์สไตล์ตอนกินข้าว แล้วเอาไปลงใน Instagram และ Facebook ของตัวเอง คนก็เริ่มเข้ามาติดตาม”
“ทำไปสักพัก เลยลองเปิดช่อง YouTube แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนมาดู มาติดตามเยอะขนาดนี้ คิดว่าทำแล้วอัปโหลดเก็บไว้ให้ลูกๆ ดู เป็นสมุดบันทึกชีวิตของเรา เหมือนสมัยก่อนผมอยากรู้ว่าคุณพ่อสร้างโรงแรมยังไง ก็ทำได้แค่ให้พ่อเล่า แล้วผมก็นึกภาพตาม”
หลังจากทำคอนเทนต์รถยนต์ไปสักพัก คุณเบียร์เริ่มหันเข้าสู่การทำคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น จากคำถามของแฟนๆ ที่ติดตามว่า ทำอย่างไรจึงจะใช้ชีวิตแบบคุณเบียร์ได้ ซึ่งคำถามนี้เองทำให้คุณเบียร์เริ่มลองทำคอนเทนต์ ‘1 Day With CEO’ เป็นการนำเสนอชีวิตจริงๆ ของคุณเบียร์แบบไม่มีการปรุงแต่ง จนมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พื้นฐานทางบ้านดี แค่นี้ก็ประสบความสำเร็จ ดราม่าที่คุณเบียร์เลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่คุณเบียร์เป็นคนที่ประสบความสำเร็จจากการสานต่อธุรกิจครอบครัว ทำให้ในบางครั้ง คุณเบียร์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงดราม่า และคำถามจากคนภายนอกได้ ว่าคุณเบียร์ประสบความสำเร็จ เพราะพื้นฐานทางบ้านดีกว่าคนอื่น
“แน่นอน มีคนคิดว่าผมมาถึงจุดนี้ได้เพราะครอบครัวดี ซึ่งผมก็ไม่เถียง ผมไม่ได้ลำบาก ถ้าไม่มีครอบครัวคอยสนับสนุน ผมคงมาไม่ถึงจุดนี้ แต่ผมก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบไม่ต่างจากคนอื่นๆ”
“บางคนมีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องจิตใจ ครอบครัว หรือคนรัก ผมเองก็มีปัญหา บางคนอาจจะไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องงานมากเท่าผม กลับบ้านไปเขาได้นอนหลับสบาย ในขณะที่เขาหลับผมยังต้องนั่งคิดงาน ตื่นมาผมต้องดูว่าผมต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ต้องแก้ปัญหาอะไร มันเป็นภาระ หรือปัญหาของแต่ละคนที่ต่างกัน”
“ช่วงโควิด บางคนตกงาน ผมเองก็มีปัญหาที่ต้องดูแลลูกน้องเป็นพันๆ คน ให้ผมปิดโรงแรม ปิดร้านอาหาร ไม่จ่ายเงินเดือนพนักงาน ผมทำไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องแก้ไขปัญหามากกว่าคนอื่นๆ”
ผมเป็น YouTuber ที่ด้นสด บทไม่เคยมี
เมื่อชีวิตต้องแบกรับความเครียด จากปัญหา และความกดดันมากกว่าคนอื่นๆ คุณเบียร์ยอมรับว่า การทำช่อง YouTube ของตัวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการหลีกหนีจากความเครียดเช่นกัน
“ผมทำรายการแบบไม่มีสคริปต์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นครั้งแรกที่มีสคริปต์ แต่ผมไม่เป็นธรรมชาติเลย”
“ผมเลยคิดใหม่ ว่ากล้องคือเพื่อน กล้องคือคนที่ผมอยากเล่าเรื่องให้ฟัง ความเป็นธรรมชาติ คือสิ่งที่คนชอบที่สุด ผมไม่อยากเซ็ตการถ่ายทำมาก บางครั้งถ่ายทำ 1 คลิป ตากล้องไม่เคยรู้เลยว่าจะถ่ายอะไร จนกว่าจะถึงวันที่ถ่าย และผมก็ใช้เวลาบรีฟงานแค่ 1 นาที การมีมุมกล้องหลุดๆ บ้าง ผมว่ามันเป็นสเน่ห์ของช่อง”
เมื่อถามว่า ระหว่างมาดนักธุรกิจ กับการเป็น YouTuber อะไรคือสิ่งที่เป็นตัวตนของคุณเบียร์มากที่สุด คำตอบคือ คุณเบียร์ไม่เลือกในบทบาทใดบทบาทหนึ่ง เพราะความจริงแล้ว ไม่ว่าบทบาทไหนๆ ก็เป็นตัวเขาทั้งสิ้น
“ถ้าถามว่าผมเป็นเหมือน YouTuber ที่อยู่ในจอ หรือเป็นเหมือนนักธุรกิจเวลาทำงาน ผมเหมือนกัน 100% แต่มีหลายมิติ ถ้าปรุงแต่งว่าเวลาถ่ายคลิปเป็นแบบนึง เวลาทำงานเป็นอีกแบบนึง ผมว่าวันนึงมันจะโป๊ะ เพราะอึดอัด ที่เห็นผมในจอ ตัวจริงผมก็เป็นแบบนั้น แต่แตกต่างกันที่กาลเทศะมากกว่า”
แม้คุณเบียร์ จะมีความเป็นธรรมชาติในทุกบทบาท แต่คุณเบียร์ก็ต้องระมัดระวังดราม่าที่อาจเกิดจากความเป็นธรรมชาติของตัวเองด้วยเช่นกัน
“บางครั้งมีคนถามว่าทำไมผมชอบพูดกับแฟน หรือแกล้งแฟนแบบนี้ แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรกๆ ที่คนยังไม่รู้จักผม แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคอมเมนต์แบบนี้แล้ว”
อยากเป็น Influencer เริ่มจากเป็นตัวของตัวเอง รับรองไม่มีวันโป๊ะ
ต้องยอมรับว่าคุณเบียร์ ใบหยก เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดให้กับหลายๆ คนที่อยากประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการทำงาน และการใช้ชีวิต บางคนมีความฝันอยากเป็น Influencer หรือ YouTuber โดยมีคุณเบียร์เป็นต้นแบบ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร หรือต้องสร้างตัวตนในแบบไหน
“ทุกคนมีคาแรกเตอร์ของตัวเองอยู่แล้ว บางคนมีคาแรกเตอร์เงียบ บางคนคาแรกเตอร์สนุก หรือบางคนมีคาแรกเตอร์ตลก”
“ถ้าจะเป็น Influencer หรือออกหน้ากล้อง คุณต้องเป็นตัวของตัวเองก่อน คุณอย่าหลอกตัวเองว่าเป็นแบบนี้ แต่ไปทำตัวอีกแบบ ผมว่ามันยาก วันนึงก็จะโป๊ะ ถ้าจริงๆ คุณเป็นคนแสบ แต่คุณไปพูดเพราะ วันนึงหลังกล้องโดนแอบถ่าย ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ การเป็นตัวของตัวเองจึงดีที่สุด”
“ทุกคนมีเสน่ห์อยู่แล้ว ซึ่งเสน่ห์เป็นสิ่งที่แตกต่าง ให้พยายามดึงออกมาใช้ และอีกเรื่องคือ ต้องทำคอนเทนต์ในเรื่องที่ตัวเองชอบ ดีกว่าไปทำเรื่องที่ไม่ถนัด แล้วไม่เป็นตัวเอง เป็นธรรมชาติดีที่สุด มันยากมากนะที่จะฝืนธรรมชาติของตัวเอง”
ส่วนเรื่องหน้าตา สมัยก่อนคนอาจคิดว่าการเป็น Influencer ต้องหน้าตาดี แต่สำหรับคุณเบียร์แล้ว คุณเบียร์ให้ความสำคัญที่ฟอร์มในการแสดงออกมากกว่า
“คนที่เป็นไอดอล ไม่จำเป็นต้องเป็นคนหน้าตาดี ไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องเนี้ยบ หลุดบ้างก็ได้ เราไม่ได้ไปเล่นละครเป็นพระเอก แต่เราทำหน้าที่นำเสนอคอนเทนต์สนุกๆ ไม่จำเป็นต้องระวัง ยิ่งระวัง ยิ่งมีฟอร์ม คนดูยิ่งรู้สึกอึดอัด”
นี่คือเรื่องเล่าจาก 9 Conversations และคุณเบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก ที่รับหน้าที่สานต่อธุรกิจของครอบครัว ด้วยการสร้างตำนานบทใหม่ให้กับตัวเอง ทั้งการเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ และ YouTuber ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนเห็นคุณค่าในตัวเอง และลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ชอบให้ประสบความสำเร็จ ผู้อ่านได้อะไรจากมุมมองของผู้ชายคนนี้บ้าง? สำหรับผู้เล่าแล้ว คุณเบียร์ ได้เปิดมุมมองของแนวคิดการเป็นผู้นำ ทัศนคติการมองโลกที่ครอบคลุม และเข้าถึงผู้อื่นด้วยการแสดงออกอย่างจริงใจ