DBigbike เส้นทางชีวิตที่เริ่มด้วยความหลงไหล สู่สิงห์บิ๊กไบค์ยอดไลก์หลักล้าน

เส้นทางชีวิตที่เริ่มด้วยความหลงไหล
สู่สิงห์บิ๊กไบค์ยอดไลก์หลักล้าน

Introduction

  • จาก “บิ๊กไบค์” คันแรกสู่ “เจ้าของร้านขายบิ๊กไบค์”
  • DBigbike กลายเป็น Community ได้อย่างไร ?
  • อยากซื้อ “รถมือสอง” ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

เจ้าของร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ที่อยากเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น จึงตัดสินใจเปิดเพจ ทำคอนเทนต์แนะนำมอเตอร์ไซค์จนสุดท้ายกลายเป็นที่รู้จักในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายมอเตอร์ไซค์ อย่างที่เราคุ้นชื่อกันดีในวงการนี้ ‘คุณเบนซ์ DBigbike’ เจ้าของร้านดีเจริญยนต์ เส้นทางการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ของเขาจะเป็นอย่างไรมารู้ไปพร้อมกัน

จากบิ๊กไบค์คันแรก สู่เจ้าของร้านขายรถบิ๊กไบค์

    ด้วยความที่เป็นผู้ชายคุณเบนซ์มีความชอบในเรื่องยานยนต์มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเริ่มสะสมที่มอเตอร์ไซค์ก่อน จนปัจจุบันก็มีสะสมทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์เลย ย้อนกลับไปถึงมอเตอร์ไซค์คันแรกที่คุณเบนซ์ขี่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เป็นคันที่คุณพ่อซื้อให้ คือ Honda Magna เรียกได้ว่าเป็นบิ๊กไบค์คันแรกที่ฝึกขี่เลยก็ว่าได้

    ปี 2005 สมัยนั้นคุณพ่อของคุณเบนซ์ขายรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กอยู่ แล้วประจวบเหมาะกับที่คุณเบนซ์เรียนจบมาพอดี และมีความชอบในเรื่องรถบิ๊กไบค์อยู่แล้ว เลยจับเอารถบิ๊กไบค์มาขาย ซึ่งในตอนนั้นถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ในวงการร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ ตั้งชื่อร้าน ‘ดีเจริญยนต์’ ซึ่งคำว่า ‘ดี’ มาจากชื่อของคุณแม่ของคุณเบนซ์ด้วย และเป็นจุดเริ่มต้นของ DBigbike ด้วยเช่นกัน เพราะต้องการเปิดเว็บไซต์แต่ชื่อเว็บว่า ดีเจริญยนต์ คงจะยากไป จึงเกิดไอเดียเลือกใช้ชื่อ DBigbike แทน

    ตอนนั้นที่เริ่มทำช่อง YouTube คนไทยยังไม่รู้จักกันเลย จากการเปิดเว็บไซต์มาก่อน และต้องการหาช่องทางที่จะโพสต์วิดีโอลงไปได้ และตอนนั้น Facebook ยังไม่สามารถโพสต์วิดีโอได้โดยตรงเลยด้วยซ้ำ ต้องเอาลิงก์จาก YouTube มาแปะที่หน้าเพจแทน และยังไม่ค่อยมีใครทำคอนเทนต์เป็นวิดีโอเท่าไหร่ มักจะเป็นภาพนิ่ง คุณเบนซ์เลยโดดเด่นจากคนอื่น

    คอนเทนต์วิดีโอคลิปแรกไม่ได้มีเจตนาอยากจะเป็น YouTuber เลย เพียงแต่เป็นบทบาทพ่อค้าที่อยากจะขายรถ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น  และการทำวิดีโอนอกจากการขายของอย่างเดียวแล้ว มันยังสามารถถ่ายทอดความรู้และเสน่ห์ของรถคันนั้นๆ ได้มากขึ้นผ่านการเสียงและภาพประกอบกัน ก่อนจะทำคลิปคุณเบนซ์จะไม่ทำสคริป จะพูดจากความรู้สึกจริงๆ ที่เห็นจากตัวรถ ณ ขณะที่เริ่มถ่ายวิดีโอ เป็นเอกลักษณ์ของการทำคอนเทนต์ของคุณเบนซ์ ถือเป็นความกล้าของพ่อค้าคนนี้อย่างมาก เพราะในตอนนั้นการทำคอนเทนต์เพื่อขายอย่างเดียว คนอาจจะไม่ดู แต่คุณเบนซ์ก็กล้าที่จะลงมือทำ จนสำเร็จถึงทุกวันนี้

    “ถ้ามีลูกค้า Walk in เดินเข้ามา ผมขาย 1 ต่อ 1 แต่ถ้าผมเอาคลิปที่ผมขาย ไปอัปขึ้น YouTube สมมุติมันได้ 1,000 วิว เท่ากับ ผมขายรถได้ 1,000 คนเลย มันต้องมี 1 ใน 1,000 นี่แหละที่ซื้อรถผม” 

    ถ้าเปรียบตัวเองเป็นมอเตอร์ไซค์

    “ประเด็นคือ แค่เป็นสองล้อก็ชอบหมด แต่ผมจะชอบขี่รถสไตล์สปอร์ต ชอบในเทคโนโลยีที่มีอยู่ในรถ ถ้าเทียบกับตัวเองอาจจะเป็น Harley”

    รถมอเตอร์ไซต์ที่อยู่ในใจเสมอ

    “Honda VFR 1000 cc เพราะว่าเป็นรถที่ทำให้ผมรถล้มครั้งแรก และใส่เฝือกครั้งแรก” ทุกวันนี้คุณเบนซ์ยังคงคิดถึงอยู่ เพราะเป็นรถปีเก่ามากตั้งแต่ปี 2000 รถมีขายอยู่น้อย และโมเดลเก่า ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ล้มไปก็ยังหาซื้อคืนไม่ได้

    ความรู้สึกตอนขับมอเตอร์ไซค์

    “บิ๊กไบค์มันเป็นอย่างหนึ่งที่จะเรียกว่าเป็น Boy Toy ก็ได้ เป็นอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเวลาเครียด คิดอะไรไม่ออก ผมก็แค่เอามอเตอร์ไซค์ไปขี่ มันจะทำให้สมองเราโลดแล่น ไม่ได้ว่าให้ขี่เร็ว แต่มันได้ความสุนทรียในการเดินทาง”

    “สิ่งที่มอเตอร์ไซค์มันให้ได้มากกว่ารถยนต์ คือ ความสุนทรียจากจุด A ไปถึงจุด B มันทำให้เรารู้สึกสนุกกับมัน และรถยนต์ไม่สามารถให้ได้ บางคนอาจจะมองว่าอันตราย สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่มือเรา ทุกครั้งที่ผมล้ม ผมรู้เลยว่าเพราะผมประมาท แต่ถ้าเกิดเราขับในความเร็วที่พอเหมาะ อุบัติเหตุจะเกิดน้อยมาก รถมีระบบที่เข้ามาช่วยทำให้เรารู้สึกปลอดภัยขึ้น สุดท้ายแล้วเราต้องอย่าเร็วเกิดลิมิต”

    เหตุผลที่ทำให้คุณเบนซ์รู้สึกชื่นชอบในการขับขี่มอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนต์ และอย่างที่คุณเบนซ์กล่าวไปว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อเราประมาทไม่ว่าจะทั้งรถมอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์ก็ตาม

    อะไรที่ทำให้ DBigbike มันกลายเป็น Community

    “มันมากกว่าการขายรถ หรือสร้างรายได้ให้เรา” หลังจากเริ่มทำคอนเทนต์เพียงแค่ต้องการขายรถ แต่พอได้รับการตอบรับที่ดีจากคนดู เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคนดูผ่านคอมเมนต์ทำให้คุณเบนซ์ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้น และอยากทำคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้นที่มากกว่าการขายเพียงอย่างเดียว อย่างทำคอนเทนต์ถึงรถเมืองนอกที่น้อยคนจะได้สัมผัส นำมาเล่าต่อผ่านคอนเทนต์ สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์ด้วยซ้ำ แต่เขาดูคุณเบนซ์จนรู้สึกกลายเป็นเพื่อนของเขาไปแล้ว 

    “มันเป็นสิ่งที่เรารู้สึกปลื้ม เราไม่ได้เงินจากเขาสักบาท ไม่ได้รายได้ แต่เป็นสิ่งที่ผมมีความสุขกว่าได้เงินเขาอีก เพราะ การที่คอนเทนต์ออกไป แล้วมีคนชอบ”

    ประสบการณ์การขับขี่ที่ชอบ

    “ทริปขี่ขึ้นเขาหิมาลัย ตอนนั้นไป Royal Enfield เป็นทริปที่ออกต่างประเทศครั้งแรกด้วย และมันสวยมาก ไม่คิดว่าเขาหิมาลัยจะสวยขนาดนี้ ไม่คิดว่าการขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ๆ หน้ามืดเพราะออกซิเจนต่ำมันเป็นอย่างนี้ และที่สำคัญคือ ไม่คิดว่าจะเจอหิมะ ก่อนนอนพื้นยังเขียว ตื่นเช้ามากลายเป็นพายุหิมะมาเลย เป็นความทรงจำที่ไม่ลืม”

    ทริปนี้มันสอนอะไรให้กับคุณเบนซ์หลายอย่าง ที่มากกว่าการขับขี่ มันมีเรื่องความพร้อมของร่างกาย อุปกรณ์ Safety เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ครบรสมาก ทั้งความสวยงาม ทั้งความสนุก และหลงทางที่เป็นของแถมระหว่างทางด้วย

    ความปลอดภัยสำหรับคนที่ชอบขี่

    “สุดท้ายเราจะทำอะไรก็ตามความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราสนุกของเรา แต่คนรอบข้างเรา ครอบครัวเราไม่สนุกด้วย ถ้าเขารู้สึกว่าเรามีความเสี่ยง” สำหรับคนที่ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน อยากให้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ชุด Safety หรืออุปกรณ์ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้อาจจะไม่ได้ช่วยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างน้อยก็ช่วยผ่อนเบาอาการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ และสวมใส่ไปขับขี่ยังช่วยทำให้ดูสมาร์ทและเท่กว่าด้วย

    “แพชชั่นในการขับมอเตอร์ไซค์ยังมีอยู่ตลอด แต่พอเรามีลูกเข้ามามันทำให้เราคิดเยอะขึ้น ทั้งนี้สุดท้ายเราจะมีสติในการขับขี่เยอะขึ้น แต่ยังอยากขี่อยู่นะ ไม่ขี่ไม่ได้ แต่เราจะคิดวิเคราะห์เยอะขึ้น มองโลกให้แง่ร้ายเยอะขึ้น เพราะเราคิดถึงลูก และมอเตอร์ไซค์ก็เป็นชีวิตของผมไปแล้ว แต่เราต้องไม่ประมาท เราต้องลงควาประมาท เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ”

    “จุดเริ่มต้นขี่มอเตอร์ไซค์ ผมว่าใครก็ขี่ได้ จะมีคำว่า ขี่ได้ และ ขี่เป็น” คำว่า ‘ขี่ได้’ อย่างที่บอกใครๆ ก็ขี่ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะขี่เป็น การที่เราขี่ไปถึงปลายทางและปลอดภัย ถึงเรียกว่า ‘ขี่เป็น’ รถสมัยใหม่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยเหลือเราในการขับขี่มาก สุดท้ายมันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา ที่จะขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ประมาท

    ใครอยากซื้อรถมือสอง คำนึงถึงอะไรบ้าง

    “สภาพรถถ้าเราซื้อรถสวย มันขายด้วยตัวมันเอง แต่สิ่งที่ควรคำนึงที่สุดคือเรื่องของ เอกสาร เป็นสิ่งที่ซ่อมไม่ได้” สำหรับใครที่อยากจะซื้อรถมือสองอยากให้คำนึงถึงเรื่องเอกสาร เพราะต่อให้รถจะเก่า ล้มมา หรือเสียหายตรงไหน เรายังสามารถซ่อมได้ แต่เอกสารไม่สามารถ ต้องดูให้ละเอียดก่อนจะซื้อรถ

    “ซื้อรถที่ชอบ ที่ใช่ไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ขาดทุนหลายรอบ” แล้วแบบไหนถึงจะใช่ละ? คุณเบนซ์บอกว่าให้เราลองหลับตา แล้วขึ้นไปค่อมรถมอเตอร์ไซค์ จินตนาการจำลองว่าเราขี่อยู่ ถ้าเรามีความสุข นั้นคือคำตอบ

    รางวัล Thailand Influencer Awards

    “เรายังคิดอยู่เสมอว่าเราคือคนขายรถ อยู่ๆ ได้รางวัลมา มันทำให้เราตระหนักได้ว่า เราไม่ใช่คนขายของอย่างเดียว การกระทำ คำพูดหลายๆ อย่างมันส่งผลกับคนที่ติดตามเรา และมีคนติดตามเชื่อมั่นในคำพูดของเราในระดับหนึ่ง เราต้องทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม โดยเฉพาะสังคมมอเตอร์ไซค์ ที่คนภายนอกอาจจะมองเป็นเด็กแว๊น ผมก็ไม่เถียง แต่เราจะทำตัวอย่างไรให้เป็นเด็กแว๊น อย่างมีเกียรติ ทำให้เหมาะสม ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน”

    สุดท้ายสำหรับใครที่อยากจะขี่มอเตอร์ไซค์หรืออยากติดตามคอนเทนต์มอเตอร์ไซค์สามาถเข้าไปติดตาม ‘คุณเบนซ์ DBigbike’ ได้ทุกช่องทาง ถึงมอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งที่เหมือนของเล่น แต่มันสามารถพาคุณเดินทางไปได้ ซึ่งระหว่างทางคุณจะได้สัมผัสกับสุนทรียผ่านการขับขี่ ที่ต้องไม่ประมาทด้วย และหวังว่าทุกคนจะได้เห็นมุมมองที่ดีจากอินฟลูเอนเซอร์สายสองล้อคนนี้ไม่มากก็น้อย