วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา เขาไม่ใช่ Influencer แต่คือ Creator ที่สร้างสรรค์ได้ทุกสิ่ง

Influencer บุคคลที่จะเปลี่ยนชีวิตคนได้ ในทุกๆ มิติ ในทุกๆ ทาง

ซึ่งคำว่า Influencer นี้ ไม่ได้แปลว่าใครๆ ก็เป็น Influencer ได้ แต่จะต้องเป็นคนที่ “มีอะไรให้คนติดตาม ให้คนฟัง ให้คนดู ให้คนอยากเป็น ให้คนสนใจ”

“Influencer เปรียบเสมือนสถานที่ๆ หนึ่ง ที่คนไปแล้วต้องได้อะไร แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถบอกได้ว่ารูปทรงเป็นอย่างไร แต่คนที่ไป ต้องได้อะไรกลับมาจากสิ่งๆ นั้น อาจจะได้ข้อมูล ได้ความสุข ได้ความรู้ หรือได้แรงบันดาลใจจาก Influencer คนนั้น”

หากจะให้คุณวู้ดดี้ให้คำนิยามแบบง่ายๆ และไม่เคยให้คำนิยามนี้กับที่ไหน คำว่า Influencer ของคุณวู้ดดี้ จะมีความหมายว่า “บุคคลที่จะเปลี่ยนชีวิตคนได้ ในทุกๆ มิติ ในทุกๆ ทาง”

แต่ถ้าถามว่า ตัวคุณวู้ดดี้เป็น Influencer หรือไม่ คุณวู้ดดี้กลับมองว่า “วู้ดดี้ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น Influencer” แม้ว่าในโลกของการตลาดจะจัดให้คุณวู้ดดี้เป็นหนึ่งใน Influencer ที่ทรงอิทธิพลกับผู้อื่นอย่างมากก็ตาม

“วู้ดดี้เป็นครีเอเตอร์ เราครีเอททุกอย่าง ไม่ว่าจะรายการ อีเว้นท์ ความเป็นไปได้ ผลิตภัณฑ์”

“สำหรับตัววู้ดดี้เองแล้ว มองว่าวู้ดดี้ทำแล้วคนดู และคนที่อยู่ด้วยได้อะไร” แม้ว่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณวู้ดดี้ยอมรับว่า มองผลลัพธ์ว่าถ้าทำแล้วตัวเองจะได้อะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง หรือชื่อเสียง แต่ในปัจจุบัน มุมมองในเรื่องนี้กลับเปลี่ยนไป เป็นเรื่องของความสุขของตัวเอง และคนรอบข้าง มากกว่าเรื่องชื่อเสียง หรือเงินทอง

ใครๆ ก็เป็น Influencer ได้ เพราะทุกคนมีสื่อในมือ?

หลังจากคุยกันเรื่องนิยามของคำว่า Influencer ตามแบบฉบับของคุณวู้ดดี้เรียบร้อยแล้ว เราจึงเริ่มลงลึกในรายละเอียดว่า ในทุกวันนี้ Social Media ได้กลายเป็นเหมือนตัวเร่งปฎิกริยา ทำให้ใครๆ ก็เป็น Influencer ได้ เพราะทุกคนมีสื่อในมือเป็นของตัวเอง

เรื่องนี้คุณวู้ดดี้เปรียบเทียบวงการ Influencer ว่าเป็นเหมือนการแข่งขันฟุตบอล ที่ในสมัยก่อนมีเพียงนักเตะ 22 คนในสนาม และผู้ชมที่รอบๆ เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ผู้ชมที่เคยนั่งอยู่ขอบสนามกระโดดลงไปเล่นด้วย ทำให้ทั้งผู้เล่น และผู้ชมผสมรวมกัน เกิดเป็นการแข่งขันที่มากขึ้น

“ทุกวันนี้การทำคอนเทนต์ เราคิดว่าคอนเทนต์ของเราดีแล้ว แต่มันก็จะมีคนที่แซงหน้า คิดมากกว่า และให้คุณค่ากับคนติดตามได้มากกว่า” ซึ่งในกรณีนี้คุณวู้ดดี้มองว่าเป็นเรื่องดีที่มีผู้เล่น นั่นก็คือ Influencer ที่หลากหลายมากขึ้น เพราะใครก็ตามที่เป็น Negative Influencer จะหมดพลังไปในที่สุด เหมือนกับนักฟุตบอลที่เล่นนอกกฎ จนเพื่อนร่วมทีมไม่ส่งบอลให้

แม้ว่าใครๆ จะเป็น Influencer ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า Influencer ทุกคนจะเหมือนกันไปหมด เพราะสิ่งที่แตกต่างกัน คือ Energy ที่มีในร่างกาย ซึ่ง Energy ของความเป็น Influencer นี้เองคือสิ่งที่คุณวู้ดดี้ให้ความสำคัญมากที่สุด

“จะทำอะไรก็ตาม Energy สำคัญที่สุด ตื่นมาอันดับแรก จะมีความคิดในหัวเยอะมาก ต้องจัดการกับความคิดนั้นก่อน ต้องเปลี่ยนความคิดที่ยุ่งเหยิงให้นิ่ง เปลี่ยน Energy ที่สบสน ให้มั่นคง ด้วยการออกกำลังกาย ทำสมาธิ อ่านหนังสือ อยู่กับตัวเอง”

นอกจากการจัดการกับ Energy ของตัวเองแล้ว Energy ที่ส่งต่อไปถึงคนรอบข้างก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟน ลูกน้อง หรือคนรอบตัวอื่นๆ เพราะหากส่งต่อ Energy ที่ไม่ดีให้คนอื่นตั้งแต่เช้า วันที่เหลืออยู่จะแย่ไปทั้งวัน

ส่วนในระหว่างวัน Energy ก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ดังนั้นก็ต้องรู้จักเติม Energy ให้ตัวเองด้วย

“ขนาดแบตมือถือยังต้องชาร์จทุก 3 ชั่วโมงเลย แล้วทำไมร่างกายของคุณ คุณกลับไม่ชาร์จแบต”

“วู้ดดี้เคยมาจากจุดที่ไม่ชาร์จแบตให้ร่างกายมาก่อน ถ้าไม่ชาร์จแบตจะเจอทั้ง ความเครียด ซึมเศร้า และวิตกกังวล ดังนั้นถ้าอยากไปต่อกับชีวิตอย่างยั่งยืนก็ต้องรู้จักชาร์จแบตให้ตัวเอง”

คนหาตัวตนให้เจอ เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด อยากประสบความสำเร็จต้องมั่นใจ

เมื่อคุยกันมาถึงจุดนี้ เชื่อว่าคำตอบของคุณวู้ดดี้ น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งแรงสั่นสะเทือนทางความคิด ที่เข้าไปมีอิทธิพลกับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่อยากลุกขึ้นมาเป็น Influencer เหมือนอย่างคุณวู้ดดี้

เรื่องนี้คุณวูดดี้ได้ให้คำแนะนำที่ตอกย้ำว่าในยุคนี้ใครๆ ก็เป็น Influencer ได้ “ลองค้นหาตัวเอง อย่าคิดว่าชีวิตของคุณไม่มีความหมาย ดึงมันออกมา” ตัวอย่างการสำรวจตัวตนในอีกมิติที่ซ่อนอยู่ที่ชัดเจนที่สุด คือ Influencer สายการเงิน ยังสามารถทำคอนเทนต์ในด้านอื่นๆ ให้คนได้ติดตามได้ ดังนั้นทุกคนก็สามารถค้นหาตัวตนในด้านอื่นๆ ของตัวเองได้เช่นกัน

“วู้ดดี้มีหลัก 3R ในการทำคอนเทนต์ R ตัวแรก คือ Real คอนเทนต์มันดูจริงไหม แน่นอนว่ามันอาจดูประดิษฐ์บ้าง แต่มันต้องรู้สึกจริง R ตัวที่สอง คือ Rare ถามตัวเองก่อนว่าคอนเทนต์ที่ทำมันหาดูยากไหม และ R ตัวสุดท้ายคือ Right ถูกที่ถูกเวลา ถูกกาลเทศะ ตรงกับความสนใจของคนในตอนนั้น ถ้ามี 3R คอนเทนต์นั้นรอดเสมอ”

“ในอนาคตทุกคนจะเป็น Influencer ได้หมด เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ดังนั้น รีบๆ มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองเป็น ค้นหาความสบายใจของตัวเองให้เจอ อย่าเสียเวลาในการทำอะไรที่รู้สึกว่าต้องประดิษฐ์ และมันไม่ใช่ตัวเอง รีบๆ ทำคอนเทนต์จนรู้สึกสบายตัวสบายใจ มั่นใจ และใช่”

“ให้เวลากับการขัดเกลาตัวเอง ให้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ต้องมั่นใจ อยากได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องมั่นใจ รักษาพลังแห่งความมั่นใจไว้”

และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ 9 Conversations ได้คุยกับคุณวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา Influencer ระดับตำนานของเมืองไทย ที่เชื่อมั่นในพลังอันล้นเหลือของการเป็น Influencer

ไม่มีใครเป็นผู้นำได้ตลอด เป็นผู้ตามบ้างก็ได้

ถัดจากเรื่อง Energy ของคนเป็น Influencer แล้ว พื้นฐานของการเป็น Influencer คือเป็นคนที่ทันโลก และติดตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น Trendsetter หรือ Trend Follower ก็ตาม แต่ถ้าถามคุณวู้ดดี้ว่า จะเป็น Trendsetter หรือ Trend Follower คุณวู้ดดี้ตอบคำถามนี้ว่า “ไม่เลือกได้ไหม เอาหมดเลยได้ไหม”

“วันนี้อยากจะเป็นผู้นำเทรนด์ บางทีนำตลอดก็เหนื่อยนะ เป็นผู้ตามเทรนด์บ้าง ในโลกนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องนำเทรนด์ตลอด มีคนที่ประสบความสำเร็จก็เยอะ ที่มาตามเขา แต่ทำได้ดีกว่า”

“สัจจธรรมของโลกนี้ คือ คุณไม่สามารถเป็นผู้นำได้ตลอด มันอาจจะเป็นภาพว่าคนนี้เป็นคนนำเทรนด์ แต่ถ้าอยากอยู่ได้ยาวๆ บนโลกใบนี้ ต้องเป็นทุกอย่าง เดี๋ยวก็นำเทรนด์บ้าง ตามเทรนด์บ้าง หรือถอยให้คนอื่นเป็นผู้นำบ้าง แบ่งปันกันเหมือนเวทีที่เรานั่งดู และตบมือ นั่งพัก พอไหวก็กลับขึ้นไปเป็นผู้นำใหม่”

“คนที่จะอยู่ได้ยาว คือคนที่มีน้ำใจให้คนอื่นๆ ขึ้นบ้าง ถ้าตัวเองได้ขึ้นไป ก็ทำให้เต็มที่ วู้ดดี้อยากอยู่กับโลก อยากอยู่กับทุกคน การนำเทรนด์มันเหนื่อย แต่บางคนก็สนุกไปกับการเป็นผู้นำ”