คุณเค คณิน เจ้าของเพจแม่เมนูนี้ทำไง รสชาติแห่งความทรงจำ และช่วงเวลาอันแสนมีค่าที่อยากบันทึกไว้

รสชาติแห่งความทรงจำ และช่วงเวลาอันแสนมีค่าที่อยากบันทึกไว้

Introduction

  • ชีวิตที่ผ่านมาใช้เวลาไปกับการเล่าเรื่องของคนอื่น จนชีวิตเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนทำให้หันกลับมาเล่าเรื่องของคนใกล้ตัว
  • อาหารรสมือแม่ เมนูที่มีมากกว่าความอร่อย ที่ทำให้เราคิดถึงได้ทุกครั้งที่นึกถึง
  • ‘อาหาร’ เป็นจุดเชื่อมโยงสานสัมพันธ์ทำให้ได้คุยกับแม่ และยายมากขึ้น

เมื่อพูดถึงคำว่า ‘รสมือแม่’ รสชาติอาหารที่ใครๆ ก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันอาจไม่ใช่ความอร่อย ความกลมกล่อมที่เกิดจากรสเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด แต่เป็นรสชาติแห่งความทรงจำ และช่วงเวลาอันแสนมีค่าที่ถูกบันทึกไว้

บุคคลที่พูดถึงรสมือแม่ได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้น คุณเค คณิน พรรคติวงษ์ เจ้าของเพจแม่เมนูนี้ทำไง จากคนในวงการเอเจนซี่ ผู้อยู่เบื้องหลังการทำโฆษณาให้กับแบรนด์ใหญ่ระดับประเทศ เข้าใจการสื่อสารด้วยสไตล์บ้านๆ แต่ได้ใจความ เข้าถึงง่าย และ Touch ใจคนดู

คุณเค เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำเพจแม่เมนูนี้ทำไง ว่าเกิดจากความต้องการในการเก็บผลงานตลอดระยะเวลา 5 ปีของการทำงาน เพื่อต่อยอดความฝันในการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์

“ตอนเรียนจบ ผมอยากเป็นผู้กำกับโฆษณา กำกับภาพยนตร์ แต่ต้องไปเรียนรู้จากการเป็นครีเอทีฟก่อน ผมก็ไปเรียนรู้มา 5 ปี แล้วก็รู้ว่าวงการโฆษณานี่เหนื่อยจังเลย รู้สึกว่าไปสื่อสารกับคนอื่น แต่เหมือนรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ผมรู้สึกเหนื่อย และรู้สึกถึงความตันบางอย่าง”

ผมอยากออกมาเล่าเรื่อง และกำกับด้วยตัวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร” แต่หลังจากนั้นไม่นานชีวิตของคุณเคก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะคุณแม่ของคุณเคประสบอุบัติเหตุรถชน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเคฉุกคิดขึ้นมาได้ทันที

“5 ปีที่ผ่านมา ผมมัวแต่ไปเล่าเรื่องของคนอื่น แต่ลืมเล่าเรื่องของคนที่บ้าน หลังจากที่คุณแม่โดนรถชนผมเลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ก็เลยไปขอลาออกกับหัวหน้า และบอกว่าอยากไปทำอะไรเกี่ยวกับคุณแม่ผมบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี”

หลังจากตกตะกอนความคิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณเคจึงตัดสินใจที่จะเปิดเพจแม่เมนูนี้ทำยังไงขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงพื้นที่เก็บรวบรวมผลงาน แต่เป็นพื้นที่บันทึกความผูกพันระหว่างแม่ลูก ผ่านบทสนทนา และเรื่องราวของแต่ละเมนูอาหาร

“คลิปแรกที่ทำ คือเมนูหมูผัดปลาอินทรีเค็มเป็นแค่การโทรศัพท์หาคุณแม่ ให้สอนทำอาหารผ่านโทรศัพท์ หลังจากทำคลิปเสร็จผมก็ปล่อยทิ้งไว้เป็นเดือนๆ เลย ยังไม่ลง เพราะคิดว่ามันเหมือนคลิปสอนทำอาหารช่องอื่น”

“จนสุดท้ายนึกขึ้นได้ว่า เพจเราไม่ใช่เพจทำอาหาร แต่เป็นเพจที่มีเรื่องราว มีบทสนทนาระหว่างแม่กับลูก ก็เลยเจอว่ามันเป็นรสชาติอูมามิที่กลมกล่อม ท้ายคลิปหลังจากทำอาหารเสร็จ ผมปรุงอาหารขั้นสุดท้ายด้วยเรื่องราว ทำให้ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณแม่ได้มากขึ้น”

รสมือแม่ อาจไม่ได้อร่อยที่สุด แต่เป็นความทรงจำอันล้ำค่า

เมื่อถามถึงความทรงจำที่คุณเคนึกถึงจากการทำคลิปในเพจแม่เมนูนี้ทำไง อย่างแรกที่คุณเคนึกถึงคือ ‘รสมือแม่’

อาหาร คือความทรงจำ หลังจากที่ผมเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ผมกินข้าวแกงที่ไม่ใช่ไม่อร่อย แต่ไม่ถูกปากเหมือนที่เคยกินตอนเด็กๆ”

“ผมอยากกลับไปกินข้าวร้อนๆ ที่บ้าน เหมือนที่แม่ทำให้กินตอนเป็นเด็ก มันเป็นเรื่องของความทรงจำมากกว่าความอร่อย ถ้าเอาฝีมือของแม่ไปเทียบกับเชฟคงสู้ไม่ได้ แต่มีความทรงจำกับมัน”

“อาหารที่คุณแม่ กับคุณยายทำ ไม่ใช่อาหารที่อร่อยที่สุด แต่กินแล้วสบายใจ”

“ตอนผมเด็กๆ ในวันหยุดผมจะดูการ์ตูนช่อง 9 แล้วก็จะได้ยินเสียงคุณแม่สับหมู ได้กลิ่นกระเทียม ต้มน้ำแกง ใส่หมูสับลงไป ค่อยๆ ได้กลิ่น จนกระทั่งได้ยินเสียงคุณแม่เรียกไปกินข้าว”

ขอขอบคุณภาพจากเพจ แม่ เมนูนี้ทำไง

เมนูที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ติดอยู่ในความทรงจำของคุณเค หากไม่ใช่คุณแม่ทำ ก็จะไม่กิน นั่นคือ ‘เมนูหมูผัดปลาอินทรีเค็ม’

“ต้องแม่เราทำถึงจะอร่อย ไม่ค่อยเห็นใครทำ เลยต้องกลับไปกินที่บ้านเท่านั้น มันเป็นหมูแห้งๆ ธรรมดา ตักใส่ข้าวร้อนๆ นั่งกินหน้าทีวี เป็นความทรงจำที่ผมจำได้ดี”

“การกินข้าวที่บ้านผมมีความสบายใจมากกว่า มันไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้มาก จะนั่งท่าไหนก็ได้ เป็นรสชาติที่ผมสบายใจ แต่ถ้าใครจะอยากกินข้าวนอกบ้านก็ไม่มีอะไรผิดถูก ไม่ว่ากัน”

หลังจากย้อนคุยถึงเรื่องราวความทรงจำในอดีตเกี่ยวกับรสมือแม่ที่คุณเคยังคงจำได้จนถึงทุกวันนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจึงตั้งคำถามถึงสิ่งที่คุณเคกำลังทำอยู่ในปัจจุบันบ้างว่าในบรรดาเมนูทั้งหมดที่เคยทำลงเพจแม่เมนูนี้ทำไง

คุณเคชอบเมนูไหนมากที่สุด ซึ่งคำตอบของคุณเคไม่ได้ชอบเมนูนั้นเพราะรสชาติ แต่ชอบเพราะเรื่องราว และบทสนทนาที่ได้คุยกับคุณแม่

“นอกจากเมนูหมูผัดปลาอินทรีเค็มซึ่งเป็นเมนูแรกแล้ว ผมชอบเมนูปลาสลิดทอด เพราะกินกับอะไรได้เยอะ ผมชอบเรื่องราวที่ได้คุยกับแม่ในคลิปนั้น หลังจากทำมาแล้วสิบกว่าคลิป ผมเริ่มได้คุยกับแม่มากขึ้น มีเรื่องที่ผมอยากจะระบาย อยากจะสารภาพ หรืออยากขอโทษมากขึ้น เพราะคนเราถ้าไม่ได้คุยกันเลย ต่างคนก็จะต่างน้อยใจ และเข้าใจผิดกันไปเรื่อยๆ”

“หรืออย่างคลิปที่คุยกับยายผมก็ชอบเหมือนกัน เพราะยายเป็นคนที่ให้กำลังใจเก่ง ตอนที่ผมเริ่มทำเพจใหม่ๆ ผมเคย ผมส่งคลิปไปประกวดที่รายการหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รางวัลกลับมา แต่ก็มียายที่ให้กำลังใจว่าได้ที่ 3 ก็เก่งแล้ว”

“ผมดูคลิปนั้นตัดไปร้องไห้ไป คลิปนี้ช่วยเยียวยาจิตใจผมได้ดี”

ความรู้สึก Feel Good ในทุกคลิป ทุกเมนูของคุณเค ไม่ใช่การเตี้ยม หรือเขียนบทก่อนการถ่ายทำแล้วให้พูดตาม แต่เป็นความรู้สึกจริงๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งกับตัวคุณเค คุณแม่ และคุณยาย

“ทุกคลิปไม่มีสคริปต์ครับ แม่กับยายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมจะโทรไปหาตอนไหน จะคุยเรื่องอะไรเขาจะไม่รู้เลย แต่ผมเองจะมีคำถามตั้งต้น จะเป็นสคริปต์คำถามของผมเองมากกว่า ว่าวันนี้ผมจะถามอะไร ส่วนคำตอบของแม่ กับยายเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นสดๆ”

“บางครั้งคำตอบของแม่กับยาย ก็เป็นคำตอบที่ผมไม่คาดคิด แต่ส่วนใหญ่จะดีกว่าที่คิดไว้ มันเป็นความจริง เพราะผมเคยชินกับงานในวงการโฆษณาที่จะต้องมีสคริปต์ไปตีกรอบเอาไว้ คิดไปเองมากเกินไปว่าเขาจะต้องตอบแบบนี้ พอเจอเข้ากับความจริงที่พูดออกมามันจึงดูสมเหตุสมผลกว่า คิดแบบนี้ ก็ตอบแบบนี้ คลิปของผมจึงกลมกล่อมขึ้น ไม่ Fake”

ขอขอบคุณภาพจากเพจ แม่ เมนูนี้ทำไง

อาหารตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้ครอบครัว

หลังจากคุยกันมาสักพักใหญ่ๆเราเริ่มรู้สึกว่าคุณเค กับคุณแม่ดูสนิทสนมกันมากเราจึงถามต่อว่าแล้วถ้าไม่ใช่เรื่องการทำอาหาร คุณเค กับคุณแม่ จะคุยกันเรื่องอะไรบ้าง?ความจริงแล้วคุณเคยอมรับว่าก่อนหน้านี้คุณเค กับคุณแม่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่นัก

“ผมกับแม่คุยกันน้อย ยิ่งตอนเด็กๆ ยิ่งไม่ค่อยได้คุยกันเลยก่อนหน้าที่จะทำเพจคุยกันน้อยมาก”

“ส่วนยายเป็นคนขี้บ่น ผมก็จะชินกับการคุยกับยายมากกว่าเถียงกันไปเถียงกันมา แซวกันไปแซวกันมา”

“แต่หลังจากทำเพจ เพจกลายเป็นสิ่งที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ได้เยอะ เมนูอาหารทำให้ผมสนิทกันมากขึ้น คุยกันเยอะขึ้น รู้จักกันเยอะขึ้น ช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้รู้จักแม่เท่าที่ควร ตอนนี้เหมือนเวลาไม่นาน แต่ผมได้รู้จักเขามากขึ้น”

อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากที่คุณเคได้เริ่มทำเพจแม่เมนูนี้ทำไงคือพฤติกรรมในการทำอาหาร ก่อนหน้านี้คุณเคยอมรับว่า “ผมไม่ทำอาหารเลย ซื้อกินอย่างเดียว”

“เมนูผัดผมยังพอทำได้นะ แต่เมนูแกงต้องเททิ้ง กินไม่ได้แน่นอน ผมไม่กล้าทำ”แต่หลังจากที่เปิดเพจ ฝีมือการทำอาหารของคุณเคก็ดีขึ้น จนเริ่มส่งอาหารที่ทำให้คุณแม่ และคุณยายชิมได้แล้ว“แม่กับยายได้ลองชิมประมาณ 3-4 เมนู เค้าก็บอกว่าพอกินได้นะ แต่ที่เหลือผมก็กินเองจนหมด ไม่ค่อยเหลือถึงที่บ้าน”

“ที่บ้านก็บอกว่าทำครั้งแรกๆ ก็แบบนี้แหละ ทำครั้งแรกจะดีเลยคงไม่ได้ ทำไปเรื่อยๆ ก็อร่อยเอง ซึ่งทุกคลิปที่เห็นคือการทำเมนูนั้นครั้งแรกหมดเลย มันเป็นสิ่งที่ผมต้องใช้เวลา”

“หลังจากทำเมนูที่เห็นในคลิปไปแล้ว พอกลับไปทำอีกครั้งก็สบาย โปรเลย เพราะมันไม่ต้องถ่ายคลิปด้วย ผมรู้ว่าต้องใส่วัตถุดิบอะไร ต้องใส่ตอนไหน ไม่กลัวการทำมันแล้ว”

หลังจากคุยกันมาเกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม เราได้รู้ถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ภายในครอบครัวระหว่างคุณเค คุณแม่ และคุณยายผ่านเรื่องราว และประสบการณ์ดีๆ ระหว่างการทำอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเพจแม่เมนูนี้ทำไงของคุณเค สามารถ Touch ใจคนทั่วไปได้เป็นอย่างดี จนมีผู้ติดตามเกือบ 5 แสนคน ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีคลิปทำอาหารอันแสนเรียบง่าย

แต่กลมกล่อมไปด้วยบทสนทนาของคนในครอบครัว กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเคกลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด ที่ทำหน้าที่ส่งต่อเรื่องราว และความสัมพันธ์ดีๆ ของคนในครอบครัว

“มีคนที่เข้ามาบอกในเพจว่า เขาหาเรื่องคุยกับแม่มากขึ้น โทรหาแม่บ่อยมากขึ้น เพราะเพจของผมเลยนะ”

“แต่ที่จำได้แม่นเลยคือ มีผู้หญิงคนนึงคุณพ่อป่วยเป็นโควิด ซึ่งปกติคุณพ่อเป็นคนทำกับข้าวให้กิน ตัวเขาทำกับข้าวไม่เป็นเลย ก็เลยต้องโทรศัพท์หาพ่อ ให้พ่อสอนทำกับข้าว แล้วก็เริ่มทำเมนูนั้นส่งไปให้คุณพ่อกินที่โรงพยาบาลสนาม เป็นการเริ่มฝึกทำอาหารจากสูตรของคุณพ่อเพราะเพจของผมเลย”

“อย่างน้อยผมก็ทำให้สูตรทำกับข้าวของคนๆ นึง ส่งต่อไปถึงลูกได้ ทำให้เขาได้คุยกันเยอะขึ้น ได้ทำกิจกรรมด้วยกัน เป็นความทรงจำดีๆ ให้แก่กัน”

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เราได้คุยกับคุณเค คณิน พรรคติวงษ์ เจ้าของเพจแม่ เมนูนี้ทำไง กับคลิปทำอาหารอันแสนเรียบง่าย แต่ทำให้หวนคิดถึงรสมือแม่ ที่อาจไม่ใช่รสชาติแห่งความอร่อย แต่เป็นช่วงเวลา ความทรงจำ และความสัมพันธ์ดีๆ ที่ถูกกักเก็บไว้ตามกาลเวลา