เส้นทางความน่ารักของครอบครัว 4 ขา “น้องหมาหน้ายิ้ม”
Gluta Story เส้นทางความน่ารักของครอบครัว 4 ขา “น้องหมาหน้ายิ้ม”
Introduction
- Gluta Story เริ่มขึ้นได้อย่างไร
- ชื่อน้องหมานั้น ท่านได้แต่ใดมา
- ก่อนจะเลี้ยงน้องหมาสักตัว ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เรียนนิเทศ และมีใจรักสัตว์ ใครจะไปคิดว่าการรับเลี้ยงน้องหมาใต้หน้าหนึ่งตัว จะทำให้เขากลายเป็นครีเอเตอร์ที่ทุกคนรู้จักอย่างเพจ ‘Gluta Story’ วันนี้เราพาทุกคนไปรู้ถึงเบื้องหลังกว่าจะเป็นเพจที่ทุกคนกับ ‘คุณยอร์ช สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์’
ชีวิตมหาวิทยาลัยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่หอพัก วันหนึ่งมีน้องหมาพลัดหลงมาอยู่ใต้หอ ซึ่งหอเป็น per friendly มีสัตว์หลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ร่วมกับคนในหอ แต่ที่หอมีกฎห้ามไม่ให้สุนัขจรจัดเข้ามา หลังจากเห็นหน้าน้องหมาตัวนี้มาหลายครั้ง แต่ครั้งนั้นน้องหมากำลังจะโดนรปภ. ไล่ไป คุณยอร์ชจึงตัดสินใจรับเป็นสัตว์เลี้ยงของตัวเอง และนั้นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่กลูต้าและคุณยอร์ชได้เจอกัน
เริ่มทำคอนเทนต์บนเพจได้ไง
เริ่มเลี้ยงกลูต้าในช่วง 5 ขวบ และเขาต้องรักษามะเร็งไปด้วย ซึ่งคอนเทนต์แรกๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพถ่ายโชว์ความสดใสของกลูต้า จนเริ่มไวรัล มีคนเข้ามาติดตามในเพจมากขึ้น หลังจากนั้นจึงเริ่มทำคอนเทนต์เพิ่มขึ้นไปด้วย หลังจากนั้นไม่นาน ‘กอลัม’ ก็เข้ามาจอยในครอบครัว
กอลัม เป็นน้องหมาอีกตัวที่บังเอิญเจอที่มินิมาร์ท ซึ่งปกติคนเลี้ยงหมาอย่างคุณยอร์ชมักจะสังเกตว่ามีหมาจรจัดตัวไหนที่เป็นหน้าเก่า หน้าใหม่ พอบังเอิญเห็นกอลัมเห็นที่เป็นหน้าใหม่มา เห็นตัวนี้แปลกๆ มันหลงมาหรือยังไง จึงตัดสินใจเอามาเลี้ยง
“แรกๆ พยายามจะดันคาแรกเตอร์ให้น่ารัก ใสๆ แบบกลูต้า แต่ไม่ได้ เพราะเขาเป็นสายตลก หน้าตาเขาตาเหลือกๆ ขยับแค่ลูกตา เลยกลายเป็นคลิปนิทานหมาๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ 2 ของการทำคอนเทนต์ ซึ่งการทำคลิปตลกกระแสนิยมในตอนนั้นจะเป็นการทำคลิปตลกสั้นๆ แค่ 7 วิ เราเลยทำคลิปตลกที่ง่ายๆ และให้กอลัมจะเข้ามาอยู่ในคลิป ทำหน้าดราม่าๆ แล้วใส่ซาวด์เพิ่มความตลกเข้าไป” ซึ่งคอนเทนต์สามารถเรียกเสียงฮา และสามารถตกลูกเพจได้มากยิ่งขึ้นไปอีก จากทำความเป็นธรรมชาติของทั้ง 2 ตัว
ทำเพจมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ยุคที่เทรนด์การทำ Youtube กำลังมา ในตอนนั้นประเทศไทยยังไม่ค่อยมีครีเอเตอร์สาย Pet เท่าไหร่ จึงตัดสินใจทำรายการ ‘มหึหมา’ ที่เป็นการสัมภาษณ์น้องหมาที่บ้านของคุณยอร์ช จากช่วงแรกเริ่มที่ไม่ค่อยมีใครทำคอนเทนต์เกี่ยวกับหมา จนกลายเป็นที่รู้จักผ่านระยะเวลาที่เปิดเพจมาร่วมเกือบ 10 ปีแล้ว และปัจจุบันเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้านทั้งหมาและแมวทั้งหมดก็ 10 ตัว
ที่มาของนิสัยรักหมา
นิสัยรักหมามีตั้งแต่วัยเด็ก เพราะจะคลุกคลีอยู่กับหมา กับแมวตลอดเวลา ก่อนไปโรงเรียนก็ใช้เวลากับการร่ำลาหมาแมว เลิกเรียนก็พร้อมจะเจอโอบกอดหมาที่รอคอยเรา เขาตื่นเต้นจะได้เห็นการเติบโตของน้องหมาที่เขาได้เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
และคุณยอร์ชบอกกับเราถึงนิสัยส่วนตัวอีกอย่างว่า “ทั้งผมและส้ม (แฟน) มีความรู้สึกว่าคุยกับหมารู้เรื่องมากกว่าคน ไม่ได้ว่าคนอื่น แต่หมายถึงเราทั้งคู่ ความสามารถในการสื่อสารไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่กับหมา เรามั่นใจว่าเราเข้าใจความรู้สึกของหมา ดูภาษากายของหมาได้ถนัด กับคนอาจจะไม่เก่งเท่าไหร่”
ชื่อน้องหมานั้น ท่านได้แต่ใดมา
ชื่อน้องหมาแต่ละตัว ส่วนใหญ่ตั้งใหม่หมด ยกเว้นลูกชิ้น นวล จัมโบ้ ที่มีชื่อติดตัวมาอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าแต่ละตัวตั้งชื่อจากอะไรบ้างละ คุณยอร์ชบอกว่าเป็นการตั้งชื่อตาม Emotional ณ ช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งชื่อก็มาน่ารัก เป็นที่น่าจดจำตามคาแรกเตอร์ของทุกตัว ในตอนแรกจะตั้ง ก.ไก่ ก่อน อย่างกลูต้า กอลัม การ์เดน ซึ่งชื่อ ‘กลูต้า’ มาจาก ‘ตัวขาว’ หมาสีขาวครีม ในยุคนั้นที่การฉีดกลูต้ากำลังฮิต ‘กอลัม’ มาจาก ‘บุคลิกเขาคล้ายๆ กอลัม’ บวกกับเพิ่งดู The lord of the rings ตอนกลางคืน และตอนเช้าตัองพาไปหาหมอ แล้วหมอถามชื่อ เลยตั้งว่า ‘กอลัม’
ก่อนจะเลี้ยงหมาสักตัว คำนึงถึงอะไรบ้าง
คุณยอร์ชพูดถึงความแมตซ์กันในความชอบนิสัยของคนที่จะเลี้ยง และนิสัยของสายพันธุ์หมาที่จะรับมาเลี้ยงด้วย “การเลี้ยงหมามันเหมือนแมตซ์ในทินเดอร์เลย มันต้องเจอคนที่ถูกใจ และเราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปอีกนาน”
“เมื่อมันแมตซ์กันอะไรมันก็ง่าย แต่อะไรที่ไม่แมตซ์กันมันก็ยากไปหมด”
“อยากให้คิดว่าเป็นแฟนคนหนึ่งแล้วกัน อยากจะเน้นในเรื่องความแมตซ์กันของสัตว์เลี้ยง เคมีระหว่างคนเลี้ยงกับสัตว์ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเลี้ยง ลองใช้วิธีของผม คือ การลองเลี้ยงก่อนสักสัปดาห์ ขอฟาร์มหรือ Shelter ลองเลี้ยงก่อนส่วนใหญ่จะอนุญาต จะได้รู้เรื่องเลยว่าเรารับได้ หรือไม่ได้”
และนอกจากนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างที่อยู่อาศัย และเวลา ว่าเราจะมีเวลาให้น้องหมาได้มากพอไหม เราจะสามารถให้ความรักกับเขาได้เต็มที่หรือเปล่า และอีกอย่างที่อยากให้นึกถึงคือ ‘สภาพการเงิน’ เพราะจะมีค่ารักษาที่ต้องจ่ายเมื่อน้องหมาเจ็บป่วย
ซึ่ง ณ ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่มาดูแลในเรื่องการรับเลี้ยงหมา ทำการคัดกรองผู้เลี้ยงดู และความเข้ากันของสุนัขกับเจ้าของ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทอดทิ้งกันในอนาคต จึงอยากให้คนที่ตั้งใจจะเลี้ยงหมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเลี้ยง เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ
โมเมนต์ที่ถูกใจในแต่ละตัว
หมาแต่ละตัวของคุณยอร์ช ส่วนใหญ่จะมาจากการที่เขานำมารักษา แต่พอไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกเริ่มหลงรักโดยไม่รู้ตัว “ทุกตัวจะมีเสน่ห์ของตัวเองที่ต่างกันออกไป บางตัวจะขี้อ้อน ชอบเลียหน้า เป็นเสน่ห์อีกอย่างของเขา บางตัวเข้าหายาก พอเข้าหาได้ก็จะรู้สึกดี เหมือนคนหนึ่งคน ที่มีเสน่ห์ต่างกัน มันเยอะมากๆ ที่หมาเขา Spark Joy กับเราได้มาก แค่ได้ลูบ สัมผัสก็หลงรักได้”
และสัตว์เลี้ยงของใครหลายๆ คน เชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถช่วยให้เราแฮปปี้ได้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกไม่ดี คุณยอร์ชเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เชื่อแบบนั้นเช่นกัน
“เวลาที่เราดาวน์ ที่เราคิดวิตก กังวล มันคือการที่เราอยู่กับอนาคต หรืออดีต แต่หมามันทำให้เราอยู่กับปัจจุบันได้จริงๆ ไม่ว่าจะสัมผัส ลูบไปหนึ่งทีเรารู้เลยว่าเราอยู่ตรงนี้ วันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันที่ไม่ดีนะ”
“ความทุกข์มันเข้ามาเป็นปกติ แต่เวลาที่ได้เราอยู่กับหมา ความทุกข์มันจะผ่านไปไวกว่าปกติ”
“หมาและแมว เป็นนักฮีลลิ่งที่เก่งที่สุดในโลกสำหรับผม”
โมเมนต์ที่นอยด์
คงมีไม่กี่เหตุการณ์ที่จะทำให้คนเรารู้สึกนอยด์ได้ ที่ไม่ใช่เรื่องนิสัยดื้อซนของน้องหมาที่เรารับได้อยู่แล้ว แต่โมเมนต์ที่นอยด์ได้ คือ ‘ตอนป่วย’ และ ‘ตอนที่เขาจากไป’
“ตอนที่เสียจับโบ้ไป รู้สึกเสียใจมาก แต่ไม่แย่เท่าที่คิดมากเท่าไหร่ เพราะว่าส่วนหนึ่งเรารู้สึกว่า ถ้าจะเลี้ยงหมาสักหนึ่งตัว จะพยายามไม่ติดค้างอะไร ต้องเลี้ยงอย่างเต็มที่”
“ถ้าเขาหลับตาไปแล้ว เราจะไม่มีคำถามในหัวเลยว่า เราไม่ได้พาเขาไปทะเลหรือเปล่า เราไม่ได้ลูบหัวเขาหรือเปล่า เราไม่ได้มองตาเขาหรือเปล่า เราให้เขาได้เต็มที่ เวลา อาหาร การกิน พาออกไปข้างนอก อยู่กับเขาอย่างเต็มที่ พอเขาหลับลงไป ความรู้สึกมันจะเหมือนการไปส่งลูกไปเรียน ไม่รู้สึกติดค้างอะไร”
“เราเต็มที่ให้กับทุกตัว หน้าที่ของผมหลักๆ นอกจากการทำคอนเทนต์ คือ หมาตัวไหนที่เรายังไม่ได้เอนเตอร์เทรนเขาว่ะ เราต้องให้ความสนใจเขาทุกๆ ตัว ไปบอกกู๊ดไนท์ทุกตัวก่อนนอน”
แฟนที่ชอบและรักหมาเหมือนกับเรา
“ไม่ได้รู้ว่าเป็นข้อดี หรือข้อเสีย (หัวเราะ) เพราะจะชวนกันพาแต่หมาเข้าบ้าน” คุณยอร์ชบอกว่าเวลานั่งรถไปไหนด้วยกัน ก็จะพากันชี้ในดูหมา แมวจรตลอดทาง พอเป็นคนที่ชอบเหมือนกันก็จะคุยกับรู้เรื่อง คุณยอร์ชจะมีช่วงเวลาที่ฮีลลิ่งใจได้ดีอยู่เสมอจากทั้งแฟนที่น่ารัก และน้องหมา แมวที่แสนรัก
หมาชอบถ่ายคอนเทนต์อย่างไม่น่าเชื่อ
เราได้ถามคุณยอร์ชว่าเวลาที่ถ่ายคอนเทนต์กัน ปกติแล้วเราจะเข้าใจว่าน้องหมาจะไม่ชอบการถ่ายทำคอนเทนต์ จะรู้สึกงงที่มีกล้องมาคอยตามถ่ายหรือเปล่า แต่คุณยอร์ชได้เซอร์ไพร์สเราผ่านคำตอบว่า
“น่าแปลกใจมาก ช่วงหนึ่งที่เป็นโควิด เราต้องทำงานอยู่ในบ้าน คอนเทนต์อยู่ในบ้าน สิ่งที่เราตั้งใจตอนนั้นคือ ขอหยุดทำรายการ เพราะมันน่าเบื่อ พอผ่านไป 1-2 เดือน ได้เวลากลับมาถ่ายใหม่ ผลที่ออกมา หมาดีใจกันมาก วิ่งมากระติกหางกันใหญ่ เอ็นจอยมาก เพราะว่าเวลาถ่ายรายการ พลังงานของทีมงานหลังกล้องจะใส่พลังสนุกเต็มที่ น้องหมาก็จะชอบกัน เพราะได้รับพลังงานที่ดี และได้รับคำชม”
“และรางวัลที่หมาชอบนอกจากขนมแล้วคือ การปรบมือ”
“แต่พอเป็นกองถ่ายน้องหมาก็จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราเลยไม่ค่อยได้รับงานถ่ายหนังเท่าไหร่”
ความรู้สึกที่ได้รับรางวัล Thailand Influencer Awards 2021 สาขา Pet Lover
“ขอบคุณและดีใจที่เห็นความตั้งใจของทีมพวกเรา และความน่ารักของหมาของเรา ดีใจแทนหมาๆ ที่คนมาเห็นความน่ารักของพวกเขา” และนอกจากที่ขอบคุณถึงผู้จัดเวทีแล้วนั้น เราได้ขอให้คุณยอร์ชพูดอะไรเพื่อขอบคุณน้องหมาสุดน่ารักของเขา
ขอบคุณน้องหมา
“จริงๆ ผมเคยทำคลิปขอบคุณน้องหมา บางตัวดีใจจนน้ำตาไหลก็มี ซึ่งเกิดจากภาษากายที่ดีใจมากๆ ถึงขั้นมากที่สุด ในคลิปนั้น ผมพูดชมเขา ถึงแม้หมาจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง แต่เขาอ่านภาษากายรู้เรื่อง ฟังน้ำเสียงเก่ง ว่าน้ำเสียงที่พูดคือ น้ำเสียงที่ชื่นชม ยินดี”
เป้าหมายของ Gluta Story
เพจคุณภาพที่ถูกสร้างขึ้นจากคุณยอร์ช โดยเขามีตั้งใจทำคอนเทนต์ที่ Feed ไปได้ในทุกแพลตฟอร์ม และตั้งใจว่าจะทำคอนเทนต์ที่ดีไซน์ไว้เพื่อแพลตฟอร์มนั้นจริงๆ ซึ่งอาจจะหมายถึงการที่ต้องทำงานมากกว่าเดิม แต่เพื่อให้ผลงานต้องตั้งอยู่ในมาตราฐานคุณภาพที่ดี