David William ครูฝรั่งสายฮา ผู้ทะลายกำแพงด้านภาษาด้วยคอนเทนต์สุดไวรัล

ครูฝรั่งสายฮา ผู้ทะลายกำแพงด้านภาษาด้วยคอนเทนต์สุดไวรัล

Introduction

  • เมื่อต้องเริ่มเป็น “ครู” อย่างจริงจัง
  • จากคอนเทนต์ “ทางการ” สู่คอนเทนต์ “สายฮา”
  • เป้าหมายต่อไปของ “ครูเดวิด”

ครูสอนภาษาอังกฤษที่แสนจะอารมณ์ และมีมุกสอนภาษาที่ทำให้เราได้เรียนรู้ภาษาอย่างเข้าใจได้ง่ายๆ เชื่อว่าต้องมีใครเคยเห็นเขาผ่านหน้าฟีดไทม์ไลน์แน่นอน เขาคนนั้นคือ ‘ครูเดวิด วิลเลียม’ ครูฝรั่งสายฮา ที่พูดไทยเก่งมากอีกด้วย และเพราะเสน่ห์ที่เขาเข้าใจทั้งสองภาษา ทะลายกำแพงภาษาได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมีชวนคุยถึงเบื้องหลังกว่าจะเป็นครูเดวิดอย่างทุกวันนี้ เขาเป็นใคร และทำอะไรมาก่อน มารู้จักเขาไปพร้อมกันที่ 9Conversations

ครูเดวิด เป็นลูกครึ่ง?

    “คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนอยากจะถามว่าเราเป็นลูกครึ่งหรือเปล่า ก็จะบอกว่า เธอดูหน้าพี่ก่อนนะ พี่ไม่ได้เป็นลูกครึ่ง แต่จะบอกลูกศิษย์เสมอว่าถึงจะไม่ได้เป็นลูกครึ่ง แต่ก็อยู่ไทยมานาน แต่จะเล่าถึง Background ให้ฟังว่า สมัยเด็กๆ พ่อจะมีธุรกิจที่ไทย เลยทำให้มีโอกาสมีเยี่ยมไทยค่อนข้างเยอะตอนเป็นเด็ก เรียกได้ว่าเป็น Third culture kids ก็ว่าได้ มีโอกาสมาเที่ยวไทยค่อนข้างเยอะตั้งแต่เด็ก เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้พูดไทยได้”

    แล้วเริ่มเป็นครูอย่างจริงจังตอนไหน

    “เริ่มอยากจะเป็นครูตอนเริ่มย้ายมาอยู่ไทยจริงจัง จริงๆ ตอนแรกยังไม่ได้อยากมาอยู่ไทยถาวร เพราะว่าไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เขาจะอยู่ที่ไหนกันแน่ตอนเกษียณ แต่ว่ามันมีจุดเปลี่ยนหนึ่งที่คุณพ่อบอกว่า เขาอยากที่จะอยู่ไทยถาวร ซึ่งตอนนั้นพอพ่อเริ่มมีอายุแล้ว จึงตัดสินใจมาอยู่กับเขา และเราก็เรียนจบทางด้านการสอนภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัย Cambridge University (CELTA) จึงตัดสินใจมาลองเป็นครูที่ไทยดีกว่า ก็ลองทำมาเรื่อยๆ จนเริ่มมีคนติดตาม และเติบโตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนนั้น”

    โมเมนต์การเป็นคุณครูครั้งแรก

    “รู้สึกโชคดีครับ เราอยู่ในจุดที่วันนี้เราสามารถมอบความรู้ให้คนได้ พอเราเริ่มสอนนักเรียนไทยมันมีความสุขอะไรบางอย่าง จากนักเรียนคนไทยที่เขาสร้างความสุข รอยยิ้มให้กับเรา ยิ่งสอนยิ่งหลงรักในอาชีพนี้ มันอาจจะไม่ใช่อาชีพที่หาเงินได้มาก แต่มันคือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะสามารถทำให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้นจริงๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเรามาถูกทาง เราเป็นคนที่ Passion Oriented จะเลือกทำในสิ่งที่รู้สึกว่านี้คือ Passion ของเรา ถ้าเราทำสิ่งใดไปแล้วเราไม่มีความสุขกับมัน เราก็จะไม่ทำ เลยทำให้รู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่เราอยากจะทำ” 

    ซึ่งก่อนหน้านี้ครูเดวิดได้ทำอาชีพครูมาก่อน แต่เป็นการสอนนักเรียนต่างชาติ จนมาเจอการสอนนักเรียนไทยที่ทำให้เขาหลงรักอาชีพครูมากขึ้น

    จากคอนเทนต์ทางการ จนกลายเป็นคอนเทนต์เฮฮาฉบับของตัวเอง

    “แต่เดิมเราทำคอนเทนต์ภาษาอังกฤษแบบตามมีตามเกิด คอนเทนต์มีความแข็งมาก แล้วมันไม่ใช่ตัวตนเรา เราสร้างตัวตนที่คิดว่าคนอยากจะต้องการเห็น เราเลยมีความน่าเบื่อ และเป็นทางการ แต่จริงๆ แล้วเราเป็นร่าเริง แต่ไม่กล้าเปิดตัวสักที เพราะคิดว่าคนอื่นจะไม่ยอมรับเรา”

    “เพราะว่าเรากลัวความ conservative ของผู้ชมว่าในฐานะที่เราเป็นครู ปกติครูจะต้องเป็นอะไรที่ทางการ ใส่สูท หรือต้องสอนห้ามหยาบคาย และเราเห็นโมเดลแบบนี้มาเรื่อยๆ แต่ในใจเราก็คิดว่าการเรียนมันต้องเรียนด้วยความเฮฮา สนุก เพราะถ้าเราเรียนด้วยความน่าเบื่อ มันจะไม่ปังสักที และมีงานวิจัยจาก Cambridge ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าใครที่เรียนภาษาที่สอง ด้วยความสนุก ไม่เครียด เขามักจะประสบความสำเร็จมากกว่ามากกว่า 2-3 เท่า”

    “จนกระทั่งวันหนึ่งเราคิดว่าได้เวลาการปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาละ ใครชอบก็ดี ใครไม่ชอบก็ช่าง แล้วพอเราปล่อยความเราออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นเราก็ดังขึ้นมาเลย ถือว่าเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งเลย”

    “สิ่งที่เราบอกนักเรียนเสมอว่า เธอจะเป็นเพศไหนก็ตาม รู้สึกชอบอะไร เธอเป็นตัวเองไปเลย แล้วในวันที่คุณเป็นตัวของตัวเองนี่แหละ คือวันที่คุณจะประสบความสำเร็จ มันไม่ใช่แค่เงินเสมอหรอก แต่มันคือความสุขที่คุณมี และนั้นคือความสำเร็จที่แท้จริง”

    ความอึ้ง ทึ้ง จึ้งจากนักเรียน

    “นักเรียนจะบอกว่าไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษแบบนี้มาก่อน แต่ว่าฟีดแบกที่ได้มาจากคนที่ตามเราเขาจะรู้อยู่แล้ว และฟีดแบกที่ได้มาทั้งหมดจะบอกว่า มันเป็นมิติใหม่ในการเรียนภาษาอังกฤษ นักเรียนชอบ และมันตอบโจทย์ Feeling ของเขาว่าเขาอยากสนุก มาเรียนและรู้สึกเหมือนคุยกับเพื่อน”

    บาลานซ์เนื้อหาคอนเทนต์อย่างไร

    “สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการทำคอนเทนต์ คือ การที่เรา Maintain มันไป สำหรับการสร้าง Followers ส่วนตัวมองว่ามันไม่ได้ยาก แต่สิ่งที่ยากคือ การสร้างยอดวิว และทำให้ผู้ติดตามทุกท่านได้รับประโยชน์อย่างไร เราพยายามทำคอนเทนต์ที่หลากหลายออกไป พยายามที่จะ Give something to everyone”

    เป้าหมายต่อไปของครูเดวิด

    “เราต้องขอบคุณคนดูที่ Support เรา เพราะเราจะไม่มีวันนี้ถ้าไม่มีเขา ทุกอย่างที่ทำมามันทำได้ เพราะคนดูทุกคน และรู้สึกภูมิใจมากๆ เป้าหมายในอนาคตคืออยากเป็นครีเอเตอร์ที่มียอดติดตามเยอะสุดในประเทศไทย แต่จริงๆ ความฝันมันต้องเปลี่ยนไปได้ และอยากทำคอนเทนต์สร้างความสุขให้กับคนดูไปเรื่อยๆ และสร้างประโยชน์ให้กับคนดู เป็นสิ่งที่เราจะทำต่อไป”

    “ส่วนตัวมองว่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ดีจริง จะต้องเป็นคนที่โฟกัสว่าในแต่ละคนเราสามารถให้กับคนดูได้บ้าง”

    “ผมก็ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ยังอยู่ใน Learning Process เราพยายามที่จะเรียนรู้ตลอด พยายามหาคนดีๆ ในชีวิตผมที่คอยสั่งสอนผมได้ ถ้าเราสามารถมี Role Model ดีๆ ในชีวิตเราที่เขาทำมาดีแล้ว และเราอยากทำได้เหมือนเขา เรียนรู้จากเขา ทุกวันนี้ก็ยังมีผิดพลาดบ้าง แต่เราก็พยายามอยู่”

    Role Model ของครูเดวิด

    “ครูลูกกอฟล์แล้วหนึ่ง จริงๆ เป็นเพื่อนสนิทกับนาง แต่นางเป็นคนที่ให้โอกาสเรามาเยอะมาก ต้องให้เครดิตเขาเลยตั้งแต่เข้ามาทำอาชีพนี้ เป็นคนที่ช่วยเรามาตลอด และ Mr. Beast เราจะนั่งฟังเขาตลอด มีคำหนึ่งที่เราชอบมาก คือ ที่ไม่มีคนมาดูคุณ คุณอย่าโทษคนดูนะ คุณต้องโทษตัวเอง เพราะว่าคอนเทนต์คุณไม่ดีพอ” และยังมีอีกหลายคนที่เป็น Role Model ที่บ่มเพาะครูเดวิดมาโดยตลอด ทำให้เขากลายเป็นครูที่ดี คอยพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ และเรียนรู้อยู่เสมอ

    ตามนั้น คือ จบ!

    “ไม่รู้เลยว่าประโยคนี้มาจากไหน แต่จะมีคลิปหนึ่งที่เราเผลอพูดไป แล้วมันมีคนคอมเมนต์มาเต็มเลย เป็นไวรัล จนกลายเป็น Tagline ที่ดีของเราตลอดมา ตามนั้น คือ จบ!”

    ความรู้สึกได้เป็น Finalist ของ Thailand Influencer Awards 2023

    “ปีนี้เป็นที่เหนื่อยมากกับการทำคอนเทนต์ เพราะว่าเป็น Passion ของเราด้วยเนอะ และมีความฝันมาโดยตลอดว่าอยากจะโล่สีทองของ YouTube ที่ได้หนึ่งล้านซับ และล่าสุดเพิ่งทะลุล้านหนึ่ง เลยรู้สึกว่าปีนี้เป็นปีที่เหนื่อย แต่ก็โอเค ที่เราได้ตามฝันหลายเรื่อง และต้องขอบคุณ Tellscore ด้วยที่เลือกเป็น Finalist”

    ครูเดวิดเป็นอีกหนึ่งครูที่มีเจตนารมณ์ที่ดี ซึ่งต้องการให้ความรู้ และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นไม่ว่าจะในบทบาทครูก็ดี หรือบทบาทของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ในวันนี้ครูเดวิดได้ประสบความสำเร็จในหลากหลายเป้าหมาย และเชื่อว่าในอนาคตครูเดวิดจะสามารถก้าวไปถึงเป้าหมายอื่นๆ ต่อไปได้อีกแน่นอน และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวและตัวตนของครูเดวิด ที่มีแง่คิดมาแชร์ให้กับเราได้รู้กัน ขอทิ้งท้ายไปด้วยคำว่า ‘ตามนั้น คือ จบ!’