พีช อีทแหลก อินฟลูเอนเซอร์ผู้เป็นพลังบวก และเพื่อนกินข้าวของผู้ชม

ชายหนุ่มที่เรามักจะเห็นเขากินอาหารได้อย่างอร่อย และที่สำคัญเขากินได้ในปริมาณที่ ‘เยอะมาก’ เป็นความชอบในเรื่องกินที่มีติดตัวมาตั้งแต่วัยเด็ก จนนำพาเขาไปสู่การแข่งขันกินจุระดับนานาชาติ และทำให้เขากลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามเกือบ 10 ล้านซับ ทุกคนรู้จักเขาในฉายา ‘พีช อีทแหลก’

จุดเริ่มการเริ่มทำช่องของตัวเอง

“ตอนแรกเราแค่ต้องการเก็บผลงานการแข่งกินจุไว้ดู เผื่อไว้วันหนึ่งที่เราไม่ได้กินเยอะขนาดนั้นแล้วจะได้กลับมาดู แต่ก็พยายามหาคอนเทนต์ลง เก็บเป็นพอร์ตให้ตัวเอง หลังๆ มาก็เริ่มหาร้านอร่อย ของอร่อยกิน และเริ่มรู้สึกอยากจะอยู่เป็นเพื่อนร่วมกินข้าวกับคนดูเวลาเขาดูเรา” เมื่อเริ่มทำคอนเทนต์ตะเวนกินมากขึ้น เริ่มมีคนติดตาม คนมักจะเข้ามาคอมเมนต์ในช่องคุณพีชกันว่า ‘มีเขาเป็นเพื่อนกินข้าว’ 

“และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่คิดไม่ออกว่าเราอยากทำอะไร อย่างน้อยใหัเขารู้สึกว่ามันมีอะไรที่เขาทำได้ ลองเอาสิ่งที่ชอบ มานำเสนอเพื่อใหัคนอื่นรู้ว่าเราถนัดอะไร แค่เพื่อให้คนได้ดู ซึ่งตรงนี้มันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเห็นได้ว่าเราตั้งใจทำ เพราะเราเอาสิ่งที่เราชอบมาทำ”

“อีกอย่างคือ ได้ช่วยเหลือร้านที่คนไม่รู้จักเลย ทำให้คนรู้จัก ทำให้ร้านมีรายได้ หลายคนอาจจะคิดว่าร้านจ้างเราไปรีวิวบ้าง ซึ่งบางร้านมันไม่จำเป็น ด้วยราคาค่าตัวของผมด้วย ตอนนี้ผมต้องการเลือกร้านที่ผมอยากไปเอง ไม่ได้ต้องการให้คนมาจ้าง เพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับร้านธรรมดาที่จะมาจ้าง ในด้านอาชีพผมเลยคิดว่าผมรับงานรีวิวสินค้าแทนจะดีกว่า และไปรีวิวร้านอาหารเพื่อช่วยเหลือร้านดีกว่า อยากให้ร้านมีอาชีพที่ดี และต่อยอดอาชีพได้”

ร้านที่ประทับใจ

“มีหลายร้านที่เขาใกล้จะเจ๊ง จะพัง ร้านที่เขาทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ ปิดเจ๊งไปหลายอย่าง จนผมไปถ่ายเทปมา ร้านเขาก็ขยายเพิ่มขึ้น บางร้านใกล้จะปิดตัวแล้ว แต่ผมขอไปรีวิว รีบตัดรีบออน พอเราติดต่อไป ถามว่าเป็นไงบ้าง เขาบอกว่าร้านเขาได้ขยายแล้ว อยากจะขอบคุณเราที่ทำให้เขาอยู่ได้”

คุณพีช ‘รู้สึกดีใจ’ และเขาไม่คิดว่าความหวังหรือแสงสุดท้ายของร้านเขามันดันเป็นเขา ที่ทำให้ร้านอยู่ได้ เหมือนเขาได้ต่อชีวิตให้กับครอบครัวหนึ่งครอบครัวเลย เป็นพลังของอินฟลูเอนเซอร์อย่างคุณพีทนั่นเอง

“โลกของโซเชียลมันมีทั้งข้อดี ข้อเสีย ถ้าทำดี บางทีคนอาจจะมองว่าเป็นการสร้างภาพ ผมก็ไม่ได้สน ถ้าจิตใจเราดี เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แค่นั้นก็จบ”

กินจุขนาดนี้ สุขภาพขนาดไหน

“ทุกวันนี้ผมก็กินเยอะ แต่จะไม่ฝืนตัวเองมากแล้ว ผมรู้สึกว่ามันจะทรมานตัวเองเกินไป  ตอนนี้คอนเทนต์ในช่องจะเลี่ยงการกินเยอะเกินไป พยายามเอาวาไรตี้มาใส่มากขึ้น ไม่ฝืนมาก อาจจะไปร้านที่ชอบ และกินแค่พออิ่ม ไม่ได้ถ่ายคอนเทนต์กินจุทุกมื้อ เพราะอยากดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น จึงทำให้คอนเทนต์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น”

“ถ้าจะบอกว่าไม่มีปัญหาเลย ก็จะเป็นการโกหก มันมีอยู่แล้วครับ แต่ว่าไม่ค่อยมาก อาจจะมีไขมันขึ้น คอเลสเตอรอลสูงบ้าง แต่ผมดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย และพยายามแบ่งเวลาให้เป็น เพราะเราหลีกหนีการกินไม่ได้ เลยเพิ่มเรื่องการออกกำลังกาย ดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะเรายังต้องดูแลคนอีกหลายคน”

“คุณมีความสุขในการกินได้ แต่คุณต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยนะ และกินแต่พอดี อย่าทำตามสิ่งที่ทำผม” เป็นสิ่งที่คุณพีชมักจะบอกกับคนดูอยู่เสมอ

กำลังใจจากคนดู และคนรอบข้าง

ในช่องของคุณีพีชจะมีหลายคอมเมนต์จากแฟนคลับที่ว่า ‘ดีใจที่มีพี่พีทเป็นเพื่อนกินข้าว’  และมีครั้งหนึ่งที่แฟนคลับได้โทรมาหาคุณพีชเองเลย ซึ่งเป็น ‘อาม๊า’ แล้วด้วย 

“อาม๊าโทรเข้ามาในออฟฟิศบอกว่า อาม๊าเป็นห่วงพีช กินเยอะต้องดูแลสุขภาพด้วยนะ และอาม๊าเป็นคนป่วยติดเตียง เขาบอกว่าขอบคุณที่ทำให้เขาลุกขึ้นมากินอะไรได้ จากที่ไม่ค่อยกินอะไรเลย อาม๊าดูพีชแล้วกินข้าวอร่อย อาม๊านั่งดูน้องพีชตลอด เป็นสิ่งที่ผมฟังแล้วรู้สึกดีมาก ผมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่คิดว่าคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวที่เรารู้สึกดีกับเรา”

“ผมขอบคุณครอบครัวทุกคน เขามีส่วนช่วยให้เรามาถึงทุกวันนี้ และที่อยากจะขอบคุณที่สุดเลยคือ ‘คนดู’ ถ้าไม่มีเขาก็จะไม่มีเรา ขอบคุณที่ชื่นชอบในตัวเรา”

ชื่อเสียงตอนนี้ไกลเกินฝันเราไหม

“จริงๆ แล้วมันไกลและเลยคำว่า ‘ไกลเกินความฝัน’ มามากๆ ตั้งนานแล้วครับ แต่สิ่งที่ผมต่อยอดได้ คืออยากจะแบ่งปัน และช่วยเหลือคน ถ้าเป็นอะไรที่ไม่เหลือบากกว่าแรง ผมรู้สึกแบบนั้มาตลอด เพราะคนเก่งยังมีอีกเยอะ แต่ไม่มีโอกาส ผมเป็นคนชอบให้กำลังใจคน ผมรู้ว่าการเครียด การท้อ ไม่ได้รับกำลังใจมันเป็นเรื่องที่แย่มาก เพราะผมเคยอยู่ในจุดนั้นมาก่อน เพราะไม่อยากเล่าความท้อให้ใครฟัง ผมเลยชอบเป็นพลังบวกให้คนมากกว่า เราไม่ได้มีทรัพย์ไปช่วยเขา แต่อย่างน้อยคำพูดของเรา มันอาจจะช่วยคนได้บ้าง และรวมถึงคอนเทนต์ของเราด้วย”

เป้าหมายต่อไป

“ตอนนี้เราก็พยายามทำเรื่องคอนเทนต์ให้หลากหลาย และพยายามมองเรื่องธุรกิจด้วย ยังมีหลาย
โปรเจค ที่ผมอยากจะทำ อย่างอาหารเสริมก็ได้รับกระแสที่ดี และผมอาจจะเปิดร้านอาหาร เป็นการหยิบเอาเมนูในวัยเด็กที่เราคิดถึง เป็นเรื่องธุรกิจอาหาร แต่ถ้าไม่ดีจริง ผมไม่อยากเปิด เรื่องอาหารเป็นดาบ
สองคม ร้อยลิ้น ก็รับรสชาติไม่เหมือนกัน อันไหนที่เราบอกอร่อย คนอื่นอาจจะไม่อร่อยก็ได้ ผมขอวางระบบให้มันดีที่สุดดีกว่าก่อนจะปล่อยออกมา”

อินฟลูเอนเซอร์สายรีวิวอาหาร 

“ผมบอกเสมอว่า ‘อร่อยสำหรับผม’ หรือว่าเราไม่รู้หรอกว่าร้านไหนอร่อยเต็มร้อย เราจะมีทีมงานไป scout ดูก่อน บางร้านรสชาติแค่ใช้ได้ แต่ให้เยอะมาก ราคาถูก มันก็สามารถเป็นคอนเทนต์ได้ เป็นร้านที่เหมาะสำหรับกลุ่มพี่วิน หรือแรงงานที่รายได้ไม่เยอะมากแค่นั้นก็เป็นคุณค่าให้คนอื่นได้ ช่วยคนได้ ผมมองถึงการช่วยคนด้วย และผมจะไม่พูดให้ร้านกระทบ เพราะคำพูดของเราอาจจะทำผลกระทบให้เขาพังไปเลยก็ว่าได้ เราต้องมีจรรยาบรรณมากๆ ถึงเราจะเป็นคนตรง แต่ถ้าตรงไปและทำร้ายใคร ผมไม่ทำดีกว่า”